หนังสือเรื่อง โอลิเวอร์ ทวิสต์นี้ ข้าพเจ้าแปลจากเรื่อง Oliver Twist ฉบับย่อของ Chales Dickens ซึ่งใช้เป็นหนังสือสำหรับอ่านของนักเรียนเตรียมอุดมศึกษาในเวลานี้
หนังสือเล่มนี้เป็นชีวประวัติของเด็กชายชาวอังกฤษที่ยากนคนหนึ่ง ซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณร้อยปีมาแล้วในสมัยของดิกเกนส์ พวกคนยากจนซึ่งไม่สามารถจะทำงานได้ต้องถูกควบคุมอยู่ใน 'สถานอนุกูลคนอนาถา' สถานที่เหล่านี้มีสภาพเช่นเดียวกับคุกสำหรับขังนักโทษเราดีๆ นี่เอง จากสถานที่เหล่านี้ พวกเด็กผู้ชายที่ยากจน ซึ่งพ่อแม่ตายได้ถูกส่งไปทำงาน ในขณะที่ยังเป็นเด็ก ๆ มาก เด็กพวกนี้มีอาหารเลวๆ กิน และไม่ใคร่จะมีเสื้อผ้าสวมอย่างเพียงพอ นอกจากนั้นยังต้องถูกบังคับให้ทำงานอย่างหนักราวกับทาสอีกด้วย
ในประเทศอังกฤษทุกวันนี้ ความเป็นอยู่ของประชาชน พลเมืองแตกต่างจากสมัยของดิกเกนส์มาก ชาลส์ ดิกเกนส์ได้นำสิ่งที่โหดร้ายเลวทรามของชีวิตในสมัยนั้นมากล่าวไว้ในเรื่องของเขา เรื่องที่ชาลส์ ดิกเกนส์เขียนโดยมากมักจะถอดมาจากชีวิตจริง เช่นเรื่อง 'Devid Copperfield' ซึ่งเป็นเรื่องราวเด็กกำพร้าที่น่าสงสารคนหนึ่ง เรื่องราวบางตอนในหนังสือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตของผู้ประพันธ์จริงๆ
จากหนังสือเล่มนี้ที่ดิกเกนส์ได้เขียนไว้ ประชาชนชาวอังกฤษได้เห็นความโหดร้ายทารุณของความเป็นอยู่ในสมัยนั้น และพยายามจะปรับปรุงแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีขึ้น เพื่อช่วยให้พวกคนยากจนได้มีงานทำและมีความเป็นอยู่อย่างสะดวกสบาย พวกลูกๆ ของคนยากจนได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย ซึ่งได้ออกประกาศภายหลังที่ดิกเกนส์ได้เขียนเรื่องของเขาแล้ว
เมื่อท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ท่านจะได้ทราบถึงความเป็นอยู่ของคนยากไร้ในประเทศอังกฤษในสมัยของดิกเกนส์ ท่านจะรู้สึกสลดใจเมื่อได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของเด็กน้อยที่ต้องตกระกำลำบาก ต้องตกอยู่ในอำนาจของพวกขโมยที่บังคับกดขี่ให้เด็กน้อยนั้น กระทำโจรกรรมแต่เล็ก ๆ ท่านจะได้เห็นควมเมตตาปราณีของบุคคลบางคนในเรื่อง ซึ่งได้ช่วยเหลืออุปการะโอลิเวอร์ ทวิสต์ เด็กกำพร้าน้อยในเรื่องนี้
ข้าพเจ้าหวังว่า หนังสือเรื่องโอลิเวอร์ ทวิสต์ ฉบับย่อนี้จะให้ประโยชน์แก่นักเรียน เพราะเป็นหนังสือที่เขียนด้วยภาษาเรียบ ๆ อ่านเข้าใจง่าย และจะทำให้เด็ ๆ รู้สึกเพลิดเพลิน เมื่อได้อ่านเรื่องชีวิตของเด็กกำพร้าคนหนึ่งในสมัยของดิกเกนส์ ชีวิตของโอลิเวอร์ ทวิสต์ เด็กกำพร้า ซึ่งเป็นตัวเอกในเรื่องราวนี้จบลงอย่างไร ข้าพเจ้าขอให้ท่านผู้อ่านค้นหาเอาเอง จากการอ่านหนังสือเล่มนี้
อ.สนิทวงศ์
๒๙ ส.ค. ๙๘
บทที่ ๑ปฐมวัยของโอลิเวอร์
โอลิเวอร์ ทวิสต์ เกิดที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถานเมืองเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนเล็กน้อย เมื่อประมาณร้อยปีเศษมาแล้ว มีผู้พบมารดาของโอลิเวอร์ ซึ่งเป็นผู้หญิงสาวร่างแบบบางนอนเจ็บอยู่ข้างถนน หล่อนคงจะเดินทางมาไกล เพราะรองเท้าของหล่อนขาดวิ่น ไม่มีใครทราบว่าหล่อนมาจากไหนหรือกำลังจะไปไหน หล่อนขอดูบุตรที่เกิดใหม่ และเมื่อเขาเอาเด็กคนนั้นมาวางในอ้อมแขนของหล่อนแล้วหล่อนก็ตาย
ด้วยเหตุการณดังกล่าวแล้ว โอลิเวอร์จึงกลับกลายเป็นเด็กกำพร้าที่ยากจนมีผู้นำโอลิเวอร์ไปที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถา และโอลิเวอร์ได้อยู่ที่นั่นราวๆ แปดหรือสิบเดือน แล้วพวกเจ้าหน้าที่ประจำสถานที่นั้นได้ตกลงกันว่า จะส่งโอลิเวอร์ไปอยู่ที่โรงเลี่ยงเด็กอนาถาอีกแห่งหนึ่งที่เล็กกว่า ซึ่งอยู่ห่างออกไปสามไมล์ ในโรงเลี้ยงเด็กอนาถาแห่งนี้มีเด็กอื่นๆ อีก ๒๐ หรือ ๓๐ คน ซึ่งมีผู้หญิงเป็นผู้คอยดูแล โอลิเวอร์ได้อาศัยอยู่ในสถานที่นี้ตลอดระยะเวลาเก้าปีแรกในชีวิตของเขา
เมื่ออายุได้ ๙ ปี โอลิเวอร์ ทวิสต์ เป็นเด็กรูปร่างผอมซูบซีด ที่เป็นเช่นนี้หาใช่สิ่งแปลกประหลาดไม่ เพราะการดำรงชีวิตของเด็กๆ เหล่านี้ไม่ได้ทำให้มีุขภาพ สมบูรณ์หรือมมีความสุข มิสซิสแมนน์หญิงชราไม่ได้เป็นมารดาของเด็กน่าสงสารที่หล่อนเลี้ยงดู หล่อนได้รับเงินจำนวนเล็กน้อยสำหรับให้ซื้ออาหาร และเสื้อผ้าให้เด็กๆ เหล่านั้น แต่หล่อนเก็บเงินส่วนมากไว้ใช้เสียเอง พวกเด็ก ๆ ถูกทอดทิ้ง และถูกเคี่ยวเข็ญอย่างโหดร้ายทารุณ น่าประหลาดที่เด็กคนใดคนหนึ่งในจำพวกเด็กเหล่านั้นมีอายุอยู่ได้ถึงเก้าปี บางครั้งเมื่อเด็กคนหนึ่งตาย พวกเจ้าหน้าที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่ได้มาที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาที่เล็กกว่า เขามักจะส่งเจ้าหน้าที่คนหัวหน้ามาก่อนวันหนึ่ง เพื่อจะบอกให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จะมา แล้วมิสซิสแมนต์ก็จัดการอาบน้ำอาบท่าให้เด็กๆ และกวาดบ้านช่องให้สะอาดเรียบร้อยพวกเจ้าหน้าที่ที่มาดูมีความพอใจ และเมื่อพวกเหล่านั้นกลับไปแล้ว ทุกๆ สิ่งก็ดำเนินต่อไปเช่นเดิม
มิสเตอร์บัมเบิลมาที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถา
เวลาหนูน้อยโอลิเวอร์กำลังใช้เวลาในวันเกิดครบรอบปีที่ ๙ ในห้องเก็บถ่านและเด็กชายอีกสองคน เด็กเหล่านั้นถูกตีและขังไว้ในห้องเก็บถ่าน เพราะเขาบังอาจพูดว่าหิวในวันที่มิสเตอร์บัมเบิลหัวหน้าเจ้าหน้าที่มาที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาคณะกรรมการของโรงเลี้ยงเด็กอนาถาได้ส่งมิสเตอร์บัมเบิลมาบอกว่ เทื่อโอลิเวอร์ ทวิสต์มีอายุได้ ๙ ปีแล้ว เวลานี้ เขาจะต้องถูกนำไปโรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่ โอลิเวอร์จะต้องอยู่ที่นั่นในฐานะผู้ฝึกหัดงาน และเรียนรู้วิชาชีพจากผู้ที่ประกอบอาชีพ และได้รับการสั่งสอนให้สามารถหาเลี้ยงชีพได้เอง
มิสเตอร์บัมเบิล เป็นคนรูปร่างอ้วนล้ำ และมีอารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อมิสแมนน์โผล่ศีรษะออกมาจากช่องหน้าต่าง หล่อนแกล้งทำเป็นยินดีที่ได้พบเขามิสเตอร์บัมเบิลกลับเตและเขย่าประตู
"ตายจริง" หญิงชราพูดพลางเดินมาที่ประตู "ฉันลืมไปว่า ประตูใส่กุญแจเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ออกไปที่ถนน เชิญเข้ามาข้างในซีคะ"
เด็กทั้งสามถูกนำตัวออกจากห้องเก็บถ่าน แล้วเอาไปล้างหน้าล้างตาให้หายสกปรกมอมแมมที่สามารถจะทำได้ ก่อนที่ผู้ส่งข่าวจากโรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่ผู้นี้จะได้เห็นเขา มิสเตอร์บัมเบิลรู้สึกตัวว่าเป็นคนสำคัญจึงไม่ได้ตั้งใจจะแสดงความเป็นมิตรกับเหล่าพวกนั้น แต่มิสซิสแมนต์ได้เชิญเขาเข้าไปในห้องพิเศษของหล่อน ดังนั้นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้วางหมวกสามหยิบหับไม้เท้าไว้บนโต๊ะและถือแก้วเครื่องดื่มในมือ จึ้งตั้งต้นพูดเรื่องธุระในไม่ช้า
"เด็กคนนี้" มิสเตอร์บัมเบิลพูด "โอลิเวอร์ ทวิสต์ คนนี้มีอายุครบเก้าขวบวันนี้"
"ขอให้เขามีความสุข" มิสแมนต์พูดพลางเข็ดน้ำตาซึ่งไม่อยู่ในดวงตาของหล่อน
"แม้ว่า" มิสเตอร์บัมเบิลกล่าวต่อไป "เราจะได้ประกาศให้รางวัลแก่ผู้ที่สามารถสืบหาพ่อแม่ของเด็ก เราก็ไม่สามารถจะสืบได้ว่า ใครเป็นพ่อแม่ของเด็กคนนี้ ทั้งไม่ทราบอะไร ๆ เกี่ยวกับโอลิเวอร์ ทวิสต์เลย"
"แล้วทำไมท่านถึงรู้จักชื่อเขาหล่ะคะ?"
มิสเตอร์บัมเบิลตอบอย่างภูมิใจว่า "ฉันตั้งขึ้นเอง!"
"ท่านน่ะรึคะ เป็นคนตั้งชื่อให้เด็ก"
"จ้ะ มิสซิสแมนนื เราตั้งชื่อเด็กกำพร้าของเราตามลำดับตัวอักษร เอ บี ซี คนสุดท้ายชื่อตัวเอส ฉันตั้งชื่อว่า สวิบเกิล ต่อไปเด็กคนนี้ ตัวที ฉันก็เลยให้ชื่อ ทวิสต์ ฉันเตรียมไว้พร้อมจนถึงตัวแซด"
มิสเตอร์บัมเบิลไม่ได้อธิบายวิธีเลือกชื่อตัวของเด็ก เราจึงไม่ทราบเหตุใดชื่อ โอลิเวอร์ จึงมาต่อเข้ากับทวิสต์
โอลิเวอร์กลับไปที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่
"คุณนายครับ เวลานี้โอลิเวอร์ ทวิสต์มีอายุมากเกินกว่าจะอยู่กับคุณนายต่อไปแล้ว ผมจะมารับโอลิเวอร์กลับไปที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่ ไปพาโอลิเวอร์มาพบผมเดี๋ยวนี้" โอลิเวอร์ถูกนำตัวมา "คำนับท่านสุภาพบุรุษเสีย" มิสซิสแมนน์พูด โอลิเวอร์คำนับไปทางหัวหน้าโรงเลี้ยงเด็กอนาถา แล้วก็หันไปทางหมวกใบงามที่วางอยู่บนดต๊ะ
"เจ้าจะไปกับฉันไหม?" มิสเตอร์บัมเบิลถามด้วยเสียงน่าเกรงขาม ขณะที่โอลิเวอร์กำลังจะบอกว่า เขาจะไปกับใครๆ ได้ทั้งนั้น เขาก็เห็นมิสซิสแมนน์ ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้ของหัวหน้าโรงเลี้ยงเด็กอนาถาชูกำปั้นให้เขา และโอลิเวอร์ทราบว่าการทำเช่นนั้นหมายความว่ากระไร
"มิสซิสแมนน์ จะไปกับผมด้วยไหมครับ?" โอลิเวอร์ที่น่าสงสารถาม
"ไปไม่ได้หรอก แต่บางครั้งหล่อนก็ไปเยี่ยมเจ้าบ้าง"
สิ่งนี้ไม่ทำให้เด็กน้อยรู้สึกสบายใจ แม้จะยังอายุน้อย โอลิเวอร์ก็ฉลาดพอที่จะแกล้งทำเป็นโศกเศร้ที่ต้องจากมิสซิสแมนน์ไป ไม่เป็นการยากสำหรับโอลิเวอร์ที่จะทำให้น้ำตาไหลออกมาคลอตา ความหิวโหยและการ๔ุกเคี่ยวเข็ญอย่างโหกร้ายทารุณ ช่วยให้เขาร้องไห้ได้อย่างดี มิสซิสแมนน์จูบโอลิเวอร์หลายครั้ง และให้ขนมปังโอลิเวอร์แผ่นหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาอยากได้อีกหลาย ๆ แผ่น ที่มิสซิสแมนน์ทำเช่นนี้ เพื่อที่จะช่วยไม่ให้โอลิเวอร์มีอาหารหิวโหยมากเกินไป เมื่อไปถึงโรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่
โอลิเวอร์ถือขนปังไว้ในมือ แล้วมิสเตอร์บัมเบิลก็พาเขาไปจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก...ที่ที่เขาไม่เคยได้รับถ้อยคำ หรืออาการมองอย่างเมตตาปรานีเลยแม้เพียงครั้งเดียว แม้กระนั้นโอลิเวอร์ก็ร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าอย่างเด็กๆ ขณะที่ประตูปิดเบื้องหลังเขา ถึงแม้ว่าพวกเพื่อนเล็กๆ ที่โอลิเวอร์กำลังจากไปจะไม่มีความสุข เด็กเหล่านั้นก็เป็นพวหเพื่อนที่โอลิเวอร์รู้จักแต่เพียงพวกเดียว เป็นครั้งแรกที่เด็กน้อยเกิดความรู้สึกขึ้นในใจว่า เขาอยู่แต่ลำพังคนเดียวในโลกอันกว้างใหญ่นี้ ดาวน์โหลดอีบุ๊ค โอลิเวอร์ ทวิสต์
Mango habanero hot sauce from mango habanero - JTM Hub
ตอบลบMango habanero hot 포항 출장안마 sauce from mango habanero The 상주 출장마사지 freshest, milder, 천안 출장마사지 and 나주 출장안마 hotest Mango Habanero chile peppers on 고양 출장안마 the market.