คำนำสำนักพิมพ์
ชื่อของ หวัง เจี้ยนหลิน เชื่อว่ามีคนจำนวนหนึ่งที่ไม่รู้จักเขา นี่คือบุคคลที่รวยที่สุดในจีนและในเอเชีย ในระยะหลังๆ ความร่ำรวยของเขาสูสีกับแจ๊ค หม่า มาโดยตลอด นอกจากนี้ กลุ่มบริษัทวั่นต๋า ของเขายังเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่เหตุผลหลักที่เราเลือกนำเสนอหนังสือเล่มนี้ เพราะแท้จริงแล้ววิธีคิดของเขาต่างหากที่น่าสนใจ พญามังกรผู้นี้ไม่เคยคิดเล็ก และไม่เคยฝันเฟื่องจนเกินจริง การคิดของเขาต้องอยู่บนความรอบคอบ มองไกลอย่างมีวิสัยทัศน์ และไม่เคยย่ำอยู่กับที่ เนื้อหาตั้งแต่ต้อนจนจบทำให้คุณรับรู้ว่า หวัง เจี้ยนหลินกับบริษัทของเขาต้องเผชิญปัญหาและการเปลี่ยนแปลงอยู่ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุกครั้งก็กลับมาผงาดได้ทุกครั้ง
เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้ คุณจะไม่แปลกใจแม้แต่นิดเดียวเลยว่า เพราะอะไรอาณาจักรธุรกิจของเขาจึงเป็นเบอร์ 1 อยู่เสมอ และแม้ตอนนี้จีนกำลังเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ แต่วิธีคิดของชายผู้นี้จะทำให้คุุณรู้คำตอบและมั่นใจได้ว่า หวัง เจี้ยนหลิน กับกลุ่มบริษัทวั่นต๋าจะต้องผ่านพ้นช่วงเวลาอันยากลำบากครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน...เหมือนเช่นทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา
ด้วยความปรารถนาดี
เนชั่นบุ๊คส์
หวัง เจี้ยนหลิน ประธานกลุ่มบริษัทวั่นต๋า สร้างบริษัทขึ้นมาด้วยมือเปล่าจนกลายเป็นคนรวยที่สุดในประเทศจีนและทวีปเอเชียภายในเวลาเพียง 27 ปี ในฐานะผู้ประกอบการรุ่นแรกของจีนในยุคการปฏิรูปและเปิดประเทศ หวัง เจี้ยนหลิน คว้าโอกาสอันยิ่งใหญ่มาได้จากการที่เศราฐกิจจีนขยายตัว ความฉลาดหลักแหลมกับวิสัยทัศน์อันกว้างไกล ความช่ำชองในนวัตรกรรมกับความมุ่งมั่นและการมีวินัยในตนเองอย่างเคร่งครัด ทำให้เขามุมานะทำงานตามหลักการของตัวเองและรู้จักปรับตัวอย่างยืดหยุ่นให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง ตอนนี้ หวัง เจี้ยนหลินเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีบทบาทสำคัญและเป็นที่เคารพนับถืออย่างสูงในโลกธุรกิจเช่นเดียวกับเจ้าพ่อนักธุรกิจในอดีตอย่าง เจ.พี. มอร์แกนและร็อกกีเฟลเลอร์เลยทีเดียว
I. ยุคบุคเบิกตอนเริ่มต้อนอาชีพ
หวังเจี้ยนหลินเป็นลูกชายคนโต เกิดที่มณฑลเสฉวนเมื่อ 24 ตุลาคม 1954 พ่อเป็นสมาชิคกองทัพแดงที่ร่วมการเดินทัพทางไกล พออายุ 15 ปี หวัง เจี้ยนหลิไปเป็นทหารประจำกองทหารรักษาการณ์แดนด้านเหนือของประเทศจีน เขามีวิสัยชอบแข่งขันและจำได้เสมอว่า แม่สอนว่าต้องเป็นทหารที่ดี หวัง เจี้ยนหลิน พากเพียรเดิอนทัพทางไกลถึง 1000 กิโลเมตร ไปจนถึงป่าหิมะ และเป็นทหารเพียงหนึ่งในไม่กี่คนที่ปฏิบัติภารกิจอันยากลำบากครั้งนี้จนสำเร็จลุล่วง ต่อมาก็ได้เป็นนายทหารประจำกรมตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 30 ปี ถือว่าอายุน้อยที่สุดในกองทัพที่มีทหารอยู่หลายแสนนาย การเป็นทหารมานาน 17 ปี มีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อชีวิตของ หวังเจี้ยนหลิน พอลาออกจากกองทัพมาทำธุรกิจ เขาก็ทำให้วั่นต๋าประสบความสำเร็จทุกครั้งเหมือนกองทัพที่ไม่เคยพ่ายแพ้เวลาทำศึก
ปี 1986 ไม่นานหลังจากจีนเริ่มต้นปฏิรูปและเปิดประเทศ หวัง เจี้ยนหลินก็รู้ว่า อนาคตของจีนจะเปลี่ยนไป เศรษฐกิจกำลังเติบโตไปเรื่อยๆ เขาจึงเลิกใฝ่ฝันจะเป็นนายพล แล้วเปลี่ยนอาชีพไปเป็นเจ้าหน้าในสำนักงานเขตซีกังของเมืองต้าเหลียน ผลงานอันโดดเด่นทำให้ หวัง เจี้ยนหลิน ได้เลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว จนได้เป็นผู้อำนวยการสำนักงาน และมีอนาคตอันรุ่งเรืองคอยอยู่เบื้องหน้า ช่วงทศวรรษ 1980 พวกเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่มีหัวทางการปฏิรูปได้เริ่มหันไปทำธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นผู้ประกอบการรุ่นแรกของจีน หวัง เจี้ยนหลินติดใจแนวโน้มใหม่นี้มากจนไม่อยากทำงานในสำนักงานที่เงียบสงบนี้อีกต่อไป แต่อยากทำเรื่องที่ท้าทายยิ่งขึ้นเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น และแล้วโอกาสที่เปลี่ยนชีวิตของหวังเจี้ยนหลินก็มาถึงในปี 1988 เมื่อบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของสำนักงานเขตซีกังที่เพิ่งก่อตั้งกำลังจะล้มละลาย เพราะบริหารจัดการไม่ดี แต่สำนักงานซีกังต้องการรักษาบริษัทไว้ จึงพยายามคัดเลือกคนใหม่เข้ามาบริหารงาน หวัง เจี้ยนหลินอาสามาทำงานนี้ โดยลาออกมาเป็นผู้จัดการทั่วไปของบริษัท ที่ต่อมาได้ขยายกิจการไปเป็นกลุ่มบริษัทวั่นต๋าในปัจจุบัน
|
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น