เจาะเวลามาเป็นมือปราบ

เขาคือนักเขียนชื่อดังแห่งยุค ผู้ประพันธ์นวนิยายกำลังภายในขนาดยาวที่ตีพิมพ์ต่อเนื่องมากว่าห้าสิบเล่ม ระหว่างขับรถเพื่อไปร่วมงานแฟนมีตติ้งที่ทางสำนักพิมพ์จัดขึ้น รถคู่ใจเกิดมีปัญหา พาร่างของเขาร่วงหล่นจากเนินเขา เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง กลับพบว่าตนเองกลายเป็น หลี่ซูเหวิน คุณชายช้ำรักแห่งตระกูลที่ล่มจมผู้หนึ่ง พร้อมกับข้าวของสารพัดที่ทะลุมิติติดตัวมาด้วย

National Geographic

อ่านนิตยสาร National Geographic ภาษาไทยในรูปแบบอีบุ๊ค

ARACHNID มือสังหารสายพันธุ์แมงมุม

"อลิซ" เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่อาศัยอยู่กับลุง วันหนึ่งเธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ลุงของเธอโดนฆ่าโดยนักฆ่าที่เรียกตัวเองว่า “แมงมุม” (คุโมะ) เธอหมดสติไปและเมื่อลืมตาขึ้นมาสิ่งที่เห็นคือตัวเองอยู่ในบ้านของ “แมงมุม” นั่น… แถมยังถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าโดย “แมงมุม” ที่ว่าอีกต่างหาก

KINDLE E-BOOK ลดสูงสุด 29%

สำหรับผู้ที่จริงจังกับการอ่าน Amazon Kindle เป็นเครื่องอ่านหนังสือที่ใช้งานง่าย ตัวอักษรคมชัด จอใหญ่ มีไฟในตัวเอง ทำให้อ่านได้แม้ในที่มืด น้ำหนักเบาพกพาสะดวก แบตเตอรี่อยู่ได้นาน ช่วยให้คุณพกพาห้องสมุดส่วนตัวไปอ่านได้ทุกที่และทุกเวลา

BEST ROMANTIC SET

The Host ร่าง...อุบัติรักข้ามดวงดาว, ลุ้นรักคุณพ่อกำมะลอ, บ่วงมนตรา เสน่หารัตติกาล A discovery of witches, ใต้เงารัตติกาล Shadow of Night

วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

ซีรี่ส์บุปผารัญจวณ : อุณากรรณ

อุณากรรณ 

"อ่อนแอก็แพ้ไป อ่อนไหวก็ขึ้นเตียง โอเค้?"

โดย มณีจันท์

มนุษย์สร้างคำพูดขึ้นมา ขีดเขียนถ้อยคำลงบนแผ่นดินเหนียว ผืนหนัง ไม้ไผ่และกระดองเต่า...

การค้นพบกระดาษและการพิมพ์ ทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่พกพาได้สะดวกและเผยแพร่ไปในวงกว้างอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ การพิมพ์ช่วยสถาปนาภาษาของแต่ชาติให้มั่นคง ช่วยให้ภาษาของสามัญชนแพร่หลาย ทำให้คนอ่านออกเขียนได้เพิ่มสูงขึ้น และขยายวงกว้างออกไปนอกวงผู้นำและนักบวช

และแท้จริงแล้ว การพิมพ์หนังสือคือการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงรากถึงโคนทั้งทางความคิดและสังคม

สถาพรบุ๊คส์

คำนำสำนักพิมพ์
ในที่สุดซีรีส์บุปผารัญจวน ก็เดินทางมาถึงเรื่องสุดท้าย อุณากรรณ เรื่องราวของลูกคนกลางแห่งบ้านสุกณต์ธี กุลสตรีผู้มีเสน่ห์ปลายจวักและกิริยางดงาม ขณะเดียวกันรูปลักษณ์ภายนอกของเธอก็ดึงดูดใจอย่างที่เรียกว่า หุ่นเซียะ เอวเอส อกอึ๋ม จนวสวัตติ์ บิ๊กบอส เพลย์บอยแห่งเคนต์ อินดัสตรีส์ ใคร่จะได้ 'ชิม'

แน่นอนว่าลูกแมวน้อยอย่าอุณากรรณติดบ่วงพิศวาสของวสวัตติ์อย่างง่ายดาย และเธอก็กลายเป็น 'คิตเทน' ที่เขาแสนจะหวงแหน แต่...ความสำพันธ์ของคนสองคนเข้าไปพัวพันกับการทรยศหักหลังทางธุรกิจ การชิงไหวชิงพริบและแต้มต่อ เส้นทางของพวกเขาจึงไม่ได้เป็นสีชมพู ออกจะเทาๆ หม่นๆ ด้วยซ้ำ

ก็นั่นละ ให้มีอุปสรรคอย่างไร มณีจันท์ก็ยังเสิร์ฟความตื่นเต้นและวาบหวามให้ผู้อ่านเป็นระยะๆ

ขอเชิญทุกท่านตามติดชีวิตอุณากรรณ ณ บัดนี้
สำนักพิมพ์ Sugar Beat 

เนื้อเรื่องย่อ....

บทนำ
สี่ปีก่อน กรุงเทพมหานคร
อิสระ ลักษณ์นารา มองคนที่เดินลงจากตึกคณะในมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐด้วยในตาวาววาม

หญิงสาวที่มากับเพื่อนร่วมคลาสมีลักษณะโดดเด่น ไม่ถึงกับสวยเฉียบแต่ความงามของเธอเป็นประเภทยิ่งมองยิ่งชวนติดต้องใจเมื่อประกอบกับร่างอวบอิ่มด้วยส่วนโค้งเว้าที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดนักศึกษาหลวมๆ มองผิวเผินเหมือนอวบอิ่มไปสักนิดตามสมัยที่นิยมสาวหุ่นเพรียวบาง ทว่าชวนเร้าอารมณ์ให้ชายหนุ่มใฝ่ฝันถึง


"น้องแพร"

"พี่อิส" เจ้าของชื่อหันมองเขาเช่นเดียวกับนักศึกษาส่วนใหญ่ที่อยู่บริเวณนั้น และชายหนุ่งก็รู้ตัวว่ามักได้รับความสนใจทั้งจากรูปลักษณ์และชื่อเสียงของตน เพราะเขาคือลูกชายของนักธุรกิจใหญ่ที่มีนามสกุลเป็นที่นับหน้าถือตาและร่ำรวยระดับประเทศ

"พี่มารับน้องแพรไปทานข้าว" บอกแล้วมองเพื่อนของเธอที่ทำท่าเหลอหลา "จะชวนเพื่อนด้วยก็ได้นะครับ"

อุณากรรณกระพริบตาเพราะไม่ได้นัดกันไว้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะมา แม้ชายหนุ่มจะตามเทียวไล้เทียวขื่อเธอเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว แต่เพราะเขาเป้นรุ่นพี่ปริญญาโทปีสุดท้ายในคณะเดียวกันจึงไม่อยากหักหน้า

"ขวัญกับเก๋ชวนกินข้าวที่โรงอาหาร" บอกพลางส่งสายตาให้ขวัญจิราและเกรยูรช่วยพูด "คือเรามีนัดติวกันค่ะ" 

"น้องขวัญกับน้องเก๋ไม่เบื่อกับข้าวที่โรงอาหารบ้างเหรือครับร้านที่พี่จะพาไปเพิ่งเปิดใหม่ แต่คนแน่นมาก โชคดีที่พี่จองโต๊ะได้" 

สองสาวมองหน้ากันนิดเดียวเพราะพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เกรงใจนามสกุลดังของหนุ่มรุ่นพี่เหมือนกัน

"อีกไม่กี่วันก็สอบแล้ว เราไม่อยากออกไปไหนไกลน่ะสิค่ะพี่อิส" ขวัญจิราบอกเสียงอ่อย เพราะมีนิสัยขี้เกรงใจ

"ถ้าอยากหาคนช่วยติวเพิ่ม ก็บอกพี่ได้เลยนะครับ"

"ขวัญเป็นคนติวให้เราค่ะ เพราะเรียนเก่งกว่าทุกคน" อุณากรรณบอกเสียงอ่อน หันมองเพื่อนเชิงขอเวลานอกเพราะดูเหมือนจะไม่มีใครช่วยได้ ก่อนเดินนำอิสระมาทางหนึ่ง

"พี่ไม่โทร. มาก่อนเพราะน้องแพรปฏิเสธตลอดว่าไม่ว่าง"

ชายหนุ่มโอดครวญทันทีเมื่อเดินออกมาใต้ร่มไม้นอกอาคาร ถือโอกาสยื่นหน้ามาเกือบชิดอย่างสนิทสนม แม้อุณากรรณจะถอยห่างในระยะที่เหมาะสม นึกลำพองใจเพราะแก้มเนียนใสกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ

"ใครๆ ก็บอกว่าพี่อิสมีแฟนแล้ว"

"ถ้ามี พี่จะมาหาน้องแพรได้ยังไงครับ"

"เพื่อนของคุณจินนี่คงไม่โกหกแพรกระมังค่ะ" หญิงสาวเอ่ยชื่อเล่นของ จินต์จุฑา กฤดากุล นักศึกษาปีสุดท้ายภาคอินเตอร์ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นรุ่นพี่ต่างคณะของเธอ และไฮโซแถวหน้ารุ่นใหม่ของเมืองไทย

ในขณะที่อิสจบปริญญาตรีจากสหรัฐอเมริกามาได้สามสี่ปีจึงกลับเมืองไทย และใช้ชีวิตตามประสาหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยจนถูกกดดันจากครอบครัวให้เรียนปริญญาโท มิเช่นนั้นก็จะไม่ได้ตำแหน่งผู้บริหารตามที่ต้องการ

"พี่กับจินนี่เป็นเพื่อนกัน" อิสระทำท่าไม่พอใจ "ใครมาพูดให้น้องแพรเข้าใจผิดแบบนั้นครับ"

การทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไม่อยู่ในวิสัยของอุไรกรรณ จึงได้แต่ส่ายหน้า "ช่างเถอะค่ะ"

"ช่างยังไง มาทำให้น้องแพรเข้าใจพี่ผิดขนาดนี้"

"ถ้าไม่ใช่ เขาจะมากันท่าพี่อิสให้คุณจินนี่ทำไมค่ะ" ถามเสียงอ่อน

"ไม่อยากนินทาสุภาพสตรีหรอกนะครับ แต่จินนี่คงมีใจให้พี่อยู่บ้าง" ชายหนุ่มถอนใจ มองเธอด้วยสายตาอ้อนวอนขอให้เชื่อ "เราเจอกันตามงานสังคมอยู่บ่อยๆ เพราะครอบครัวกับธุรกิจ แต่สายตาของพี่มีน้องแพรคนเดียว"

"เธอดูเหมาะสมกับพี่อิสออกค่ะ"

"ผู้หญิงอย่างจินนี่หาได้ถมไป" สายตาหนุ่มเจ้าชู้อ่อนเชื่อมลงอีก "แต่ผู้หญิงอย่างน้องแพรหาไม่ง่ายเลย"

หญิงสาวที่เพิ่งพ้นวัยสาวน้อยมาไม่นานนึกกระดาก เพราะแม้จะมีชายหนุ่มมาขายขนมจีบไม่ใช่น้อย แต่พวกนั้นถ้าไม่กระเจิงด้วยฝีมือของตัวร้ายที่เป็นน้องสาวคนสุดท้องของบ้าน ก็มักจะยอมแพ้เพราะท่าทางนุ่มนวลแบบเสมอต้นเสมอปลาย แต่จีบเท่าไรก็ไม่มีอะไรคืบหน้าขอลเธอเอง

ต่างกับอิสระที่มุ่งมั่นเทียวไล้เทียวขื่อและทุ่มเทมาหาถึงคณะพร้อมของฝาก ซึ่งแม้ว่าเธอจะเพียรส่งคืนอย่างเครื่องประดับราคาแพงหรือกระเป๋า เขาก็หาของอื่นที่มีค่าน้อยลงอย่างดอกไม้ ขนมและหนังสือที่รู้ว่าเธอชอบ

"แพรไม่ได้พิเศษขนาดนั้น อย่างพี่อิสคงหาที่ดีกว่าได้เยอะแยะ"

"แต่หัวใจของพี่เป็นของน้องแพรแล้ว ถึงดีกว่าพี่ก็ไม่สนใจ"
อุณากรรณเบินหน้าหนีอย่างอ่อนใจ ก่อนสะดุ้งเมื่อมือเล็กถูกรวบกุมดื้อๆ "พี่อิส"

"ออกไปทานข้าวกับพี่นะครับ ให้น้องขวัญกับเก๋ไปด้วยก็ได้ถ้าน้องแพรกลัวพี่"

อุณากรรณยังไม่ทันปฏิเสธ เพราะดึงมือที่ถูกยัดของบางอย่างให้ขึ้นมาดูอย่างสงสัย

ภาพที่สายตาคนอื่นเห็นจึงเหมือนหนุ่มสาวเกี้ยวพาหยอกเย้ากันตามปกติ

"นี่อะไรคคะ" ถามเมื่อเทวัตถุแวววาวออกจากถุงกำมะหยี่เล็กๆ 

"พี่ไปงานแสดงสินค้ากับแม่มา เห็นมันน่ารักดีเลยซื้อมาฝาก"

ของที่ว่าคือสร้อยข้อมือไข่มุกเม็ดเล็กสลับกับพลอยสี่เหลี่ยมดีไซน์ทันสมัย ซึ่งคงมีราคาค่างวดไม่น้อย ถึงครอบครัวของเธอจะไม่ร่ำรวย แต่อุณากรรณคุ้นเคยกับของพวกนี้ดีเพราะมารดามักเอามาขัดถูในยามว่าง พี่สาวซึ่งเป็นนักแสดงมีชื่อในบทนางร้ายอย่างชาญ่าหรือพุดพิชญาก็มีของมีค่าเช่นนี้พอสมควร และส่งต่อให้เธอใช้บ้าง

"ของจริงนี่ค่ะ"

"จะให้พี่ซื้อของปลอมมาให้คนพิเศษอย่างน้องแพรได้ยังไง" เขาทำเสียงน้อยใจเหมือนโดนดูถูก

อุณากรรณรีบสั่นหน้า "แพรไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่พี่อิสก็รู้ว่าแพรไม่รับของที่มีราคา"

เธอเก็บของใส่กำมะหยี่สีดำส่งคืน แต่อิสระกลับกุมมือลงทับ "น้องแพรไม่เคยรับอะไรจากพี่เลย"

"เพราะแพรรับไม่ได้" เสียงอ่อนจริงจังขึ้นเช่นเดียวกับสายตา "มันไม่เหมาะสม"

"พี่อยากให้ของขวัญวันเกิดกับคนที่พี่รัก ก็ไม่ได้เหรอครับ"

"พี่อิสรู้ได้ยังไงว่าวันนี้เป็น..."

"อะไรที่เกี่ยวกับน้องแพร พี่ก็รู้จนได้"

หญิงสาวชะงักไปชั่วขณะ เป็นเวลาที่มือยังถูกกุมไว้เมื่อเสียงของผู้หญิงมาใหม่ดังขึ้น  

  ...อ่านตัวอย่างอีบุ๊ค (ebook) "อุณากรรณ" ได้ฟรีที่ลิงค์ด้านล่างครับ...

ซีรีส์บุปผารัญจวน : อุณากรรณ
มณีจันท์
www.mebmarket.com
อุณากรรณ สามใบเถาคนกลางแห่งบ้านสุกนต์ธี ผู้มีเสน่ห์ปลายจวัก ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยพีเอของ วสวัตติ์ ศิวราชภักดี บิ๊กบอสแห่งเคนต์ อินดัสตรีส์ เธอตกหลุมรักเขาทันทีเพราะเจ้านายเพลย์บอยสุดฮอตเคยช่วยชีวิตตนตั้งแต่แรกเจอ วสวัตติ์รู้ดีว่า 'ลูกแมวน้อย' มอบหัวใจให้เขาเป็นแน่แท้จึงหาเรื่องให้เธอมาอยู่ใกล้ ออกอุบายให้เธอต้องทำอาหารรสชาติอร่อยล้ำมาเสิร์ฟถึงปาก แต่แท้จริงที่เขาอยาก 'กิน' มากกว่าอะไรทั้งหมดก็คือ แม่ครัวหุ่นเซียะ เอวเอส อกอึ๋ม สุดท้ายกุลสตรีไร้เล่ห์ก็พ่ายแพ้แก่เสน่ห์ล้นเหลือของนายใหญ่ ซ้ำร้ายยังถูกเขาไล่ออกจากงานด้วยข้อหาสปายของฝ่ายตรงข้าม ลูกแมวน้อยต้องหลบมาเลียแผลใจและตั้งหลักชีวิตใหม่ด้วยการเปิดร้านอาหาร ก็ยังหนีไม่พ้นวังวนของเสือร้ายที่ตามมาตอแย และรังแกอย่างเอาแต่ใจ แถมเขายังไม่วายเอาตัวมาชิดใกล้ และเข้านอกออกในบ้านเธออย่างหน้าด้านๆ หญิงสาวไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะพอตั้งท่าจะต้านทาน เขาก็พานทำให้อ่อนระทวย

วันศุกร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2560

โอลิเวอร์ ทวิสต์ (Oliver Twist)



คำนำ 
หนังสือเรื่อง โอลิเวอร์ ทวิสต์นี้ ข้าพเจ้าแปลจากเรื่อง Oliver Twist ฉบับย่อของ Chales Dickens ซึ่งใช้เป็นหนังสือสำหรับอ่านของนักเรียนเตรียมอุดมศึกษาในเวลานี้

หนังสือเล่มนี้เป็นชีวประวัติของเด็กชายชาวอังกฤษที่ยากนคนหนึ่ง ซึ่งมีชีวิตอยู่เมื่อประมาณร้อยปีมาแล้วในสมัยของดิกเกนส์ พวกคนยากจนซึ่งไม่สามารถจะทำงานได้ต้องถูกควบคุมอยู่ใน 'สถานอนุกูลคนอนาถา' สถานที่เหล่านี้มีสภาพเช่นเดียวกับคุกสำหรับขังนักโทษเราดีๆ นี่เอง จากสถานที่เหล่านี้ พวกเด็กผู้ชายที่ยากจน ซึ่งพ่อแม่ตายได้ถูกส่งไปทำงาน ในขณะที่ยังเป็นเด็ก ๆ มาก เด็กพวกนี้มีอาหารเลวๆ กิน และไม่ใคร่จะมีเสื้อผ้าสวมอย่างเพียงพอ นอกจากนั้นยังต้องถูกบังคับให้ทำงานอย่างหนักราวกับทาสอีกด้วย

ในประเทศอังกฤษทุกวันนี้ ความเป็นอยู่ของประชาชน พลเมืองแตกต่างจากสมัยของดิกเกนส์มาก ชาลส์ ดิกเกนส์ได้นำสิ่งที่โหดร้ายเลวทรามของชีวิตในสมัยนั้นมากล่าวไว้ในเรื่องของเขา เรื่องที่ชาลส์ ดิกเกนส์เขียนโดยมากมักจะถอดมาจากชีวิตจริง เช่นเรื่อง 'Devid Copperfield' ซึ่งเป็นเรื่องราวเด็กกำพร้าที่น่าสงสารคนหนึ่ง เรื่องราวบางตอนในหนังสือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชีวิตของผู้ประพันธ์จริงๆ

จากหนังสือเล่มนี้ที่ดิกเกนส์ได้เขียนไว้ ประชาชนชาวอังกฤษได้เห็นความโหดร้ายทารุณของความเป็นอยู่ในสมัยนั้น และพยายามจะปรับปรุงแก้ไขทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีขึ้น เพื่อช่วยให้พวกคนยากจนได้มีงานทำและมีความเป็นอยู่อย่างสะดวกสบาย พวกลูกๆ ของคนยากจนได้รับความคุ้มครองจากกฎหมาย ซึ่งได้ออกประกาศภายหลังที่ดิกเกนส์ได้เขียนเรื่องของเขาแล้ว

เมื่อท่านได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้ว ท่านจะได้ทราบถึงความเป็นอยู่ของคนยากไร้ในประเทศอังกฤษในสมัยของดิกเกนส์ ท่านจะรู้สึกสลดใจเมื่อได้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของเด็กน้อยที่ต้องตกระกำลำบาก ต้องตกอยู่ในอำนาจของพวกขโมยที่บังคับกดขี่ให้เด็กน้อยนั้น กระทำโจรกรรมแต่เล็ก ๆ ท่านจะได้เห็นควมเมตตาปราณีของบุคคลบางคนในเรื่อง ซึ่งได้ช่วยเหลืออุปการะโอลิเวอร์ ทวิสต์ เด็กกำพร้าน้อยในเรื่องนี้

ข้าพเจ้าหวังว่า หนังสือเรื่องโอลิเวอร์ ทวิสต์ ฉบับย่อนี้จะให้ประโยชน์แก่นักเรียน เพราะเป็นหนังสือที่เขียนด้วยภาษาเรียบ ๆ อ่านเข้าใจง่าย และจะทำให้เด็ ๆ รู้สึกเพลิดเพลิน เมื่อได้อ่านเรื่องชีวิตของเด็กกำพร้าคนหนึ่งในสมัยของดิกเกนส์ ชีวิตของโอลิเวอร์ ทวิสต์ เด็กกำพร้า ซึ่งเป็นตัวเอกในเรื่องราวนี้จบลงอย่างไร ข้าพเจ้าขอให้ท่านผู้อ่านค้นหาเอาเอง จากการอ่านหนังสือเล่มนี้
อ.สนิทวงศ์
๒๙ ส.ค. ๙๘

บทที่ ๑ปฐมวัยของโอลิเวอร์

โอลิเวอร์ ทวิสต์ เกิดที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถานเมืองเมืองหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนเล็กน้อย เมื่อประมาณร้อยปีเศษมาแล้ว มีผู้พบมารดาของโอลิเวอร์ ซึ่งเป็นผู้หญิงสาวร่างแบบบางนอนเจ็บอยู่ข้างถนน หล่อนคงจะเดินทางมาไกล เพราะรองเท้าของหล่อนขาดวิ่น ไม่มีใครทราบว่าหล่อนมาจากไหนหรือกำลังจะไปไหน หล่อนขอดูบุตรที่เกิดใหม่ และเมื่อเขาเอาเด็กคนนั้นมาวางในอ้อมแขนของหล่อนแล้วหล่อนก็ตาย

ด้วยเหตุการณดังกล่าวแล้ว โอลิเวอร์จึงกลับกลายเป็นเด็กกำพร้าที่ยากจนมีผู้นำโอลิเวอร์ไปที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถา และโอลิเวอร์ได้อยู่ที่นั่นราวๆ แปดหรือสิบเดือน แล้วพวกเจ้าหน้าที่ประจำสถานที่นั้นได้ตกลงกันว่า จะส่งโอลิเวอร์ไปอยู่ที่โรงเลี่ยงเด็กอนาถาอีกแห่งหนึ่งที่เล็กกว่า ซึ่งอยู่ห่างออกไปสามไมล์ ในโรงเลี้ยงเด็กอนาถาแห่งนี้มีเด็กอื่นๆ อีก ๒๐ หรือ ๓๐ คน ซึ่งมีผู้หญิงเป็นผู้คอยดูแล โอลิเวอร์ได้อาศัยอยู่ในสถานที่นี้ตลอดระยะเวลาเก้าปีแรกในชีวิตของเขา

เมื่ออายุได้ ๙ ปี โอลิเวอร์ ทวิสต์ เป็นเด็กรูปร่างผอมซูบซีด ที่เป็นเช่นนี้หาใช่สิ่งแปลกประหลาดไม่ เพราะการดำรงชีวิตของเด็กๆ เหล่านี้ไม่ได้ทำให้มีุขภาพ สมบูรณ์หรือมมีความสุข มิสซิสแมนน์หญิงชราไม่ได้เป็นมารดาของเด็กน่าสงสารที่หล่อนเลี้ยงดู หล่อนได้รับเงินจำนวนเล็กน้อยสำหรับให้ซื้ออาหาร และเสื้อผ้าให้เด็กๆ เหล่านั้น แต่หล่อนเก็บเงินส่วนมากไว้ใช้เสียเอง พวกเด็ก ๆ ถูกทอดทิ้ง และถูกเคี่ยวเข็ญอย่างโหดร้ายทารุณ น่าประหลาดที่เด็กคนใดคนหนึ่งในจำพวกเด็กเหล่านั้นมีอายุอยู่ได้ถึงเก้าปี บางครั้งเมื่อเด็กคนหนึ่งตาย พวกเจ้าหน้าที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่ได้มาที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาที่เล็กกว่า เขามักจะส่งเจ้าหน้าที่คนหัวหน้ามาก่อนวันหนึ่ง เพื่อจะบอกให้ทราบว่า เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ จะมา แล้วมิสซิสแมนต์ก็จัดการอาบน้ำอาบท่าให้เด็กๆ และกวาดบ้านช่องให้สะอาดเรียบร้อยพวกเจ้าหน้าที่ที่มาดูมีความพอใจ และเมื่อพวกเหล่านั้นกลับไปแล้ว ทุกๆ สิ่งก็ดำเนินต่อไปเช่นเดิม

มิสเตอร์บัมเบิลมาที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถา

เวลาหนูน้อยโอลิเวอร์กำลังใช้เวลาในวันเกิดครบรอบปีที่ ๙ ในห้องเก็บถ่านและเด็กชายอีกสองคน เด็กเหล่านั้นถูกตีและขังไว้ในห้องเก็บถ่าน เพราะเขาบังอาจพูดว่าหิวในวันที่มิสเตอร์บัมเบิลหัวหน้าเจ้าหน้าที่มาที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาคณะกรรมการของโรงเลี้ยงเด็กอนาถาได้ส่งมิสเตอร์บัมเบิลมาบอกว่ เทื่อโอลิเวอร์ ทวิสต์มีอายุได้ ๙ ปีแล้ว เวลานี้ เขาจะต้องถูกนำไปโรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่ โอลิเวอร์จะต้องอยู่ที่นั่นในฐานะผู้ฝึกหัดงาน และเรียนรู้วิชาชีพจากผู้ที่ประกอบอาชีพ และได้รับการสั่งสอนให้สามารถหาเลี้ยงชีพได้เอง

มิสเตอร์บัมเบิล เป็นคนรูปร่างอ้วนล้ำ และมีอารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อมิสแมนน์โผล่ศีรษะออกมาจากช่องหน้าต่าง หล่อนแกล้งทำเป็นยินดีที่ได้พบเขามิสเตอร์บัมเบิลกลับเตและเขย่าประตู

"ตายจริง" หญิงชราพูดพลางเดินมาที่ประตู "ฉันลืมไปว่า ประตูใส่กุญแจเพื่อป้องกันไม่ให้เด็กๆ ออกไปที่ถนน เชิญเข้ามาข้างในซีคะ"

เด็กทั้งสามถูกนำตัวออกจากห้องเก็บถ่าน แล้วเอาไปล้างหน้าล้างตาให้หายสกปรกมอมแมมที่สามารถจะทำได้ ก่อนที่ผู้ส่งข่าวจากโรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่ผู้นี้จะได้เห็นเขา มิสเตอร์บัมเบิลรู้สึกตัวว่าเป็นคนสำคัญจึงไม่ได้ตั้งใจจะแสดงความเป็นมิตรกับเหล่าพวกนั้น แต่มิสซิสแมนต์ได้เชิญเขาเข้าไปในห้องพิเศษของหล่อน ดังนั้นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้วางหมวกสามหยิบหับไม้เท้าไว้บนโต๊ะและถือแก้วเครื่องดื่มในมือ จึ้งตั้งต้นพูดเรื่องธุระในไม่ช้า

"เด็กคนนี้" มิสเตอร์บัมเบิลพูด "โอลิเวอร์ ทวิสต์ คนนี้มีอายุครบเก้าขวบวันนี้" 
"ขอให้เขามีความสุข" มิสแมนต์พูดพลางเข็ดน้ำตาซึ่งไม่อยู่ในดวงตาของหล่อน

"แม้ว่า" มิสเตอร์บัมเบิลกล่าวต่อไป "เราจะได้ประกาศให้รางวัลแก่ผู้ที่สามารถสืบหาพ่อแม่ของเด็ก เราก็ไม่สามารถจะสืบได้ว่า ใครเป็นพ่อแม่ของเด็กคนนี้ ทั้งไม่ทราบอะไร ๆ เกี่ยวกับโอลิเวอร์ ทวิสต์เลย"

"แล้วทำไมท่านถึงรู้จักชื่อเขาหล่ะคะ?"
มิสเตอร์บัมเบิลตอบอย่างภูมิใจว่า "ฉันตั้งขึ้นเอง!"
"ท่านน่ะรึคะ เป็นคนตั้งชื่อให้เด็ก"

"จ้ะ มิสซิสแมนนื เราตั้งชื่อเด็กกำพร้าของเราตามลำดับตัวอักษร เอ บี ซี คนสุดท้ายชื่อตัวเอส ฉันตั้งชื่อว่า สวิบเกิล ต่อไปเด็กคนนี้ ตัวที ฉันก็เลยให้ชื่อ ทวิสต์ ฉันเตรียมไว้พร้อมจนถึงตัวแซด"

มิสเตอร์บัมเบิลไม่ได้อธิบายวิธีเลือกชื่อตัวของเด็ก เราจึงไม่ทราบเหตุใดชื่อ โอลิเวอร์ จึงมาต่อเข้ากับทวิสต์

โอลิเวอร์กลับไปที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่

"คุณนายครับ เวลานี้โอลิเวอร์ ทวิสต์มีอายุมากเกินกว่าจะอยู่กับคุณนายต่อไปแล้ว ผมจะมารับโอลิเวอร์กลับไปที่โรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่ ไปพาโอลิเวอร์มาพบผมเดี๋ยวนี้" โอลิเวอร์ถูกนำตัวมา "คำนับท่านสุภาพบุรุษเสีย" มิสซิสแมนน์พูด โอลิเวอร์คำนับไปทางหัวหน้าโรงเลี้ยงเด็กอนาถา แล้วก็หันไปทางหมวกใบงามที่วางอยู่บนดต๊ะ

"เจ้าจะไปกับฉันไหม?" มิสเตอร์บัมเบิลถามด้วยเสียงน่าเกรงขาม ขณะที่โอลิเวอร์กำลังจะบอกว่า เขาจะไปกับใครๆ ได้ทั้งนั้น เขาก็เห็นมิสซิสแมนน์ ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเก้าอี้ของหัวหน้าโรงเลี้ยงเด็กอนาถาชูกำปั้นให้เขา และโอลิเวอร์ทราบว่าการทำเช่นนั้นหมายความว่ากระไร

"มิสซิสแมนน์ จะไปกับผมด้วยไหมครับ?" โอลิเวอร์ที่น่าสงสารถาม
"ไปไม่ได้หรอก แต่บางครั้งหล่อนก็ไปเยี่ยมเจ้าบ้าง"

สิ่งนี้ไม่ทำให้เด็กน้อยรู้สึกสบายใจ แม้จะยังอายุน้อย โอลิเวอร์ก็ฉลาดพอที่จะแกล้งทำเป็นโศกเศร้ที่ต้องจากมิสซิสแมนน์ไป ไม่เป็นการยากสำหรับโอลิเวอร์ที่จะทำให้น้ำตาไหลออกมาคลอตา ความหิวโหยและการ๔ุกเคี่ยวเข็ญอย่างโหกร้ายทารุณ ช่วยให้เขาร้องไห้ได้อย่างดี มิสซิสแมนน์จูบโอลิเวอร์หลายครั้ง และให้ขนมปังโอลิเวอร์แผ่นหนึ่ง ซึ่งทำให้เขาอยากได้อีกหลาย ๆ แผ่น ที่มิสซิสแมนน์ทำเช่นนี้ เพื่อที่จะช่วยไม่ให้โอลิเวอร์มีอาหารหิวโหยมากเกินไป เมื่อไปถึงโรงเลี้ยงเด็กอนาถาโรงใหญ่

โอลิเวอร์ถือขนปังไว้ในมือ แล้วมิสเตอร์บัมเบิลก็พาเขาไปจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก...ที่ที่เขาไม่เคยได้รับถ้อยคำ หรืออาการมองอย่างเมตตาปรานีเลยแม้เพียงครั้งเดียว แม้กระนั้นโอลิเวอร์ก็ร้องไห้ด้วยความโศกเศร้าอย่างเด็กๆ ขณะที่ประตูปิดเบื้องหลังเขา ถึงแม้ว่าพวกเพื่อนเล็กๆ ที่โอลิเวอร์กำลังจากไปจะไม่มีความสุข เด็กเหล่านั้นก็เป็นพวหเพื่อนที่โอลิเวอร์รู้จักแต่เพียงพวกเดียว เป็นครั้งแรกที่เด็กน้อยเกิดความรู้สึกขึ้นในใจว่า เขาอยู่แต่ลำพังคนเดียวในโลกอันกว้างใหญ่นี้   ดาวน์โหลดอีบุ๊ค โอลิเวอร์ ทวิสต์


วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2560

COMTODAY 537 : รู้รอดปลอดภัย จะออนไลน์ต้องสตรอง!!!


COMTODAY 537 : Easy Digital life


CONTENTS
  • 30 รู้รอดปลอดภัย จะออนไลน์ต้องสตรอง
สิ่งที่อยู่คูกับคนใช้คอมพิวเตอร์ นอกจากปัญหาการใช้งานทั่วไปที่ผู้ใช้จะต้องเจอแล้ว ก็คงเป็นเรื่องไวรัส มัลแวร์ ภัยคุกคาม ที่อยู่เฉย ๆ มันก็วิ่งเข้ามาเองนี่แหล่ะครับ ยิ่งในสมัยที่คอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกันในระบบออนไลน์ และเราทุกคนมีการฝากชีวิตไว้กับสิ่งต่างๆ บนโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้น ยิ่งถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จำเป็นจะต้องระมัดระวังให้ดี มิเช่นนั้นคุณอาจจะกลายเป็น "เหยื่อ" ได้ง่าย ๆ
  • Editor
  • Ask
  • Comunity
  • Idea Snack
  • Gadget & Fashion
  • Buyer's Guide : 10 สิ่งที่คอเกมใฝ่ฝัน อยากให้เกิดขึ้นบนโน้ตบุ๊คของตัวเองในปี 2017
  • Comtoday Review : Alcatel SHINE LITE
  • Comtoday Review : Epson LabelWork LW-400TH พิมพ์ แปะ และรองรับภาษาไทย
  • Comtoday Review : Dell Latitude 7275 ตอบโจทย์ธุรกิจ ด้วย 2 in 1 และจอ 4K
  • I Love Mac : จะทำอย่างไร? ถ้าต้องเชื่อมต่อ MacBook, MacBook Pro รุ่นใหม่ผ่าน USB-C ไปยังอุปกรณ์อื่น ๆ 
  • Learning : โปรโมตองค์กรผ่านทาง Youtube  ตอนที่ 1 จัดเตรียมไฟล์ และการตัดต่อเบื้องต้น
  • Cool Idea : EARN MONEY รวยผ่านแอพฯ แบบง่ายๆ
  • How Today : สั่ง Android ให้กิน Data เน็ต 3G/4G น้อยลง
  • How Today : วินโดว์ โหวดได้ฟรี...ไม่ง้อแผ่นผี DVD เถื่อน
  • English.Tech : เวทมนต์ของแฮรี่พอตเตอร์
  • Digitrend : ปลายปีนี้ ยื่นภาษีกันดีกว่า
  • Extreme Game : Project Highrise "อยากเป็นเจ้าของมหาตึกสูงเสียดฟ้า ก็สร้างเองเลยเป็นไง"
  • Sudoku
  • Ecommerce : การตลาด ยามเหตุการณ์ไม่ปกติ
  • ละมุนตูน
  • เกาเหลาทิป : 3 เคล็ดลับ เซฟข้อมูลจากเว็บต้องห้ามแบบไม่ต้องกลัวโดนเท

อีบุ๊ค COMTODAY no.537
ทีมงาน COMTODAY
www.mebmarket.com

วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2560