วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

มีดบินไม่พลาดเป้า เล่ม 1

มีดบินไม่พลาดเป้า

มือกระบี่มากรักกระบี่ไร้น้ำใจ จิตวิญญาณแห่งวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่

มีดบินไม่พลาดเป้า 1 ชุด มีดบินของลี้น้อยเซี่ยวลี้ปวยตอ

คำนำสำนักพิมพ์
"มีดบินไม่พลาดเป้า" เป็นอมตะผลงานของ มังกรโบราณ "โก้วเล้ง"

"มีดบินไม่พลาดเป้า" เขียนถึงพฤติการณ์ของลี้ชิ้มฮัวผู้ตรอมตรมแฝงด้วยอดีตอันหม่นหมอง หากแต่มีดบินในมือของเขากลับเป็นที่ครั่นคร้ามของคนทั้งแผ่นดิน และเซี่ยวลี้ปวยตอ (มีดบินของลี้น้อย) ไม่เคยพลาดเป้ามาก่อน

ด้วยตัวละครอันมีมิติ การดำเนินเรื่องที่ชวนติดตามและปรัชญาแสนคมคายที่แฝงอยู่ในเรื่อง นักอ่านหลายท่าน นักวิจารณ์หลายคนล้วนแล้วแต่ยกย่องให้เรื่อง "มีดบินไม่พลาดเป้า" นี้จัดเป็นผลงานที่ดีที่สุดของโก้วเล้ง
คำกล่าวนี้ที่แท้เป็นจริงหรือไม่ เมื่อท่านพลิกอ่านจนจบ ท่านจะทราบเอง
สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์บุ๊คส์


บทที่ 1
มีดบินกับกระบี่ไว
ลมเหนือเหน็บหนาวราวคมมีด ถือแผ่นพื้นปฐพีต่างเขียง เห็นสิ่งมีชีวิตเป็นเพียงเนื้อและปลา หิมะปลิวโปรยสุดสายตา ใช้ท้องนภาต่างเตาหลอมละลายสรรพสิ่งกลายเป็นเงินยวง

หิมะใกล้หยุดตก ลมยังไม่สงบ รถม้าคันหนึ่งเล่นมาจากอุดรล้อรถที่หมุนวนบดทำลายหิมะน้ำแข็งบนพื้นแตกกระจาย แต่ไม่อาจบดทำลายความอ้างว้างวังเวงของแผ่นฟ้าแผ่นดินไปได้

ลี้ชิ้มฮัว* อ้าปากหาวคำหนึ่ง เหยียดเท้าทั้งสองไปบนหนังเตียว** อันอ่อนนุ่ม ภายในรถแม้อบอุ่นยิ่ง สุขสบายยิ่ง แต่การเดินทางครั้งนี้ยาวไกลเกินไป เงียบเหงาเกินไป ลี้ชิ้มฮัวมีเพียงรู้สึกเหนื่อยหน่าย มิหนำซ้ำบังเกิดความรังเกียจ ในชีวิตของลี้ชิ้มฮัวเกลียดชังความเงียบเหงาที่สุดแต่พานอยู่คู่กับความเงียบเหงาเป็นเนืองนิจ

*ลี้เป็นแซ่ ลิ้มฮัวแปลว่าแสวงหาความสำราญ
**หนูเซเบิล ขนมีค่ามากใช้ทำเป็นเครื่องหนัง

'ชีวิตคนความจริงเต็มไปด้วยความขัดแย้ง ไม่ว่าผู้ใดล้วนอับจนปัญญา'

ลี้ชิ้มฮวงทอดถอนใจ ล้วงสุราขวดหนึ่งขากซอกหนึ่งของรถ พอดื่มสุราลงไปอึกใหญ่ ก็ส่งเสียงไอดังๆ ออกมา ไอโดยไม่หยุดยั้ง ทำให้ใบหน้าที่ซีดขาวปรากฏสีแดงซ่านของอาการป่วยชนิดหนึ่งคล้ายเปลวอัคคีแห่งขุมนรก กำลังเผาผลาญร่างกายและวิญญาณของเขาให้มอดไหม้ไป

ขวดสุราว่างเปล่าแล้ว ลี้ชิ้มฮัวค่อยล้วงมีดเล็กๆ ออกมาเล่มหนึ่งเริ่มแกะสลักท่อนไม้ในมือเป็นรุปคน คมมีดเบาบางและคมกริบ นิ้วมือของเขาเรียวยาวมีพลัง

นี่เป็นรูปเหมือนของสตรีนางหนึ่ง ภายใต้ฝีมือแกะสลักอันชำนิชำนาญของลี้ชิ้มฮัว เค้าใบหน้าและลายเส้นดูไปอ่อนช้อยและสวยงามคล้ายกับมีชีวิตก็มิปาน

ลี้ชิ้มฮัวมีเพียงให้ลายเส้นอันรัดรึงใจแก่ 'นาง' ทั้งยังให้ชีวิตและวิญญาณแก่นาง เพียงเพราะชีวิตและวิญญาณของเขาเองได้มลายหายไปใต้คมมีดอย่างเงียบงัน

ลี้ชิ้มฮัวไม่เยาว์วัยอีกแล้ว

ที่หางตาของเขาปรากฏรอยย่น รอยย่นแต่ละเส้นขังเต็มไปด้วยความทุกข์ตรมหม่นหมองและคราเคราะห์ของชีวิต มีแต่ดวงตาของเขาที่ยังหนุ่มแน่นเยาว์วัย

นี่เป็นดวงตาประหลาดพิสดารคู่หนึ่ง กลับคล้ายเป็นสีเขียวมรกตประดุจกิ่งหลิวที่สั่นไหวในลมวสันต์ อ่อนโยนและปราดเปรียว ปานประหนึ่งน้ำทะเลใต้แสงอาทิตย์ฤดูคิมหันต์ เต็มไปด้วยพลังชีวิตอันกระปรี้กระเปร่า

อาจบางทีเพราะดวงตาคู่นี้ จึงทำให้ลี้ชิ้มฮวงมีชีวิตถึงบัดนี้
ในที่สุดรูปแกะสลักสำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว ลี้ชิ้มฮัวมองดูรูปสลักอย่างซึมเซา ไม่ทราบมองดูเป็นเวลานานเทา่ใด จากนั้นพลันเปิดประดูรถกระโดดลงไป

ชายฉกรรจ์ที่ขับรถส่งเสียงตวาดก้อง รั้งบังเหียนม้าหยุดรถเอาไว้

ชายฉกรรจ์ผู้นี้ไว้เคราครึ้มทั่วใบหน้า ประกายตาคมวาวราวเหยี่ยวคฤธร แต่รอจนเบือสายตามายังลี้ชิ้มฮัว ก็แปรเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมา มัหนำซ้ำเปี่ยมประกายเห็นอกเห็นใจด้วยใจภักดิ์ คล้ายสุนัขดุร้ายตัวหนึ่ง กำลังมองดูจู้ยิ้น (นาย) ของมัน

ลี้ชิ้มฮัวกลับขุดหลุมบนพื้นหิมะหลุมหนึ่ง ฝังรูปสลักที่เพิ่งสลักเสลาเสร็จสิ้นลงไป จากนั้นยืนอยู่หน้าหลุมอย่างซึมเซา

นิ้วมือของลี้ชิ้มฮัวถูกความหนาวคุกคามจนชาแข็ง ใบหน้าก็ถูกลมหนาวกรีดจนแดงระเรื่อ ตามเสื้อผ้าร่างกายเกาะเต็มไปด้วยเกล็ดหิมะ แต่ตัวเขาไม่รู้สึกเหน็บหนาวแม้แต่น้อย ที่ฝังอยู่ใต้หิมะนี้คล้ายกับเป็นญาติสนิทที่สุดของเขา เมื่อเขาฝัง 'นาง' ลงไป ชีวิตของเขาเองก็แปรเปลี่ยนเป็นไร้คุณค่าความหมาย

หากเปลี่ยนเป็นผู้อื่นพบความเคลื่อนไหวของลี้ชิ้มฮัวครั้งนี้คงต้องตื่นเต้นสงสัยยิ่ง แต่ชายฉกรรจ์ที่ขับรถคล้ายพบเห็นจนชาชินเพียงกล่าวเสียงนุ่มนวลว่า "ท้องฟ้าใกล้มืดค่ำ หนทางเบื้องหน้ายังยาวไกลนัก เสียวเอี้ย (นายน้อย) รีบขึ้นรถเถอะ"

ลี้ชิ้มฮัวหันกายช้าๆ ก็พบว่าข้างล้อรถยังมีรอยเท้ามนุษย์แถวหนึ่งเดินทางทิศอุดรอันไกลโพ้น มาถึงแห่งหนนี้เพียงเดียวดาย และมุ่งหน้าต่อไปเพียงลำพัง

รอยเท้าลึกยิ่ง แสดงว่าคนผู้นี้เดินทางเป็นระยะทางอันยาวไกลเดินจนเหน็ดเหนื่อยสิ้นเรี่ยวแรง แต่มันยังไม่ยอมหยุดยั้งลงพักผ่อน

ลี้ชิ้มฮัวทอดถอนใจยาว พึมพำว่า "ดินฟ้าอากาศเช่นนี้ คิดไม่ถึงยังมีคนตรากตรำเดินทางกลางฟ้าน้ำแข็งดินหิมะ ข้าพเจ้าคาดว่ามันคงต้องเป็นคนที่เดียวดายยิ่ง น่าเวทนายิ่ง"

ชายฉกรรจ์เคราครึ้มไม่กล่าวกระไร แต่ลอบทอดถอนใจ ครุ่นคิดขึ้น 'หรือท่านมิใช่คนที่เดียวดายยิ่ง น่าเวทนายิ่ง? ท่านไฉนรู้จักแต่เห็นอกเห็นใจผู้อื่น กลับลืมเลือนตัวเอง..."

ใต้ที่นั่งภายในรถ กองสุมไม้เนื้อสนอันแข็งแกร่งไว้เป็นจำนวนมาก ลี้ชิ้มฮัวเริ่มแกะสลักอีกครา ฝีมือของเขาคล่องแคล่วและสันทัด ทั้งนี้เพราะสิ่งที่เขาสลักเสลาเป็นคนคนเดียวกันตลอดกาล

คนผู้นี้มิเพียงยึดครองหัวใจของเขา ทั้งยังครอบงำสังขารร่างกายของเขาจนหมดสิ้น

หิมะหยุดตกแล้ว ความหนาวของแผ่นฟ้าแผ่นดินกลับยิ่งรุนแรงความอ้างว้างยิ่งข้นเข้ม ดีที่ยามนั้นในสายลมบังเกิดเสียงฝีเท้าผู้คนดังมากระทบโสต

สุ้มเสียงนี้แม้เบากว่าเสียงฝีเท้าม้ามากนัก แต่เป็นสุ้มเสียงที่ลี้ชิ้มฮัวมุ่งหวังรอคอย ดังนั้นไม่ว่าสุ้มเสียงนี้แผ่วเบาปานใด ลี้ชิ้มฮัวก็ไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไป

ดังนั้นลี้ชิ้มฮัวเลิกม่านรถที่จัดทำจากหนังเตียว ผลักเปิดหน้าต่างรถออก

ลี้ชิ้มฮัวพบเห็นเงาร่างอันเดียวดายที่เดินอยู่เบื้องหน้าในบัดดล

ผู้คนที่เดินช้ายิ่งทแต่ไม่หยุดยั้งชะงักลง มาตรแม้นได้ยินเสียงล้อรถ เสียงม้าร้อง แต่ยังคงไม่เหลียวหน้ากลับมา คนทั้งไม่ได้พกร่ม และไม่ได้สวมหมวก หิมะที่ละลายไหลผ่านใบหน้า ลงสู่ลำคอของมัน บนร่างมันเพียงสวมเสื้อผ้าเบาบางชุดหนึ่ง

แต่แผ่นหลังขอมันยังเหยียดตรง ตัวมันคล้ายหล่อหลวมจากเหล็ก หิมะน้ำแข็ง ความหนาวเย็น ความเหน็ดเหนื่อย ความอ่อนเพลีย ความหิวกระหาย ล้วนไม่อาจสะกดให้มันย่อท้อยอมจำนน

ไม่มีเรื่องใดสะกดให้มันย่อท้อยอมจำนนได้

เมื่อรถม้าแล่นล้ำหน้า ลี้ชิ้มฮัวค่อยเห็นใบหน้าคนผู้นี้โดยชัดตา

คิ้วของคนผู้นี้ดกหนายิ่ง ดวงตาโตยิ่ง ริมฝีปากที่บางเบาถูกเม้มเป็นเส้นสายหนึ่ง จมูกที่โด่งเป็นสัน ทำให้เค้าใบหน้าดูไปซูบเรียวกว่าเดิม

ใบหน้านี้ทำให้ผู้คนประหวัดนึกไปถึงหินฮวยกังเจี๊ยะ ทั้งดื้อรั้น แข็งแกร่ง และชาเย็น กับทุกเรื่องราวล้วนไม้กังวลสนใจ แม้กระทั่งตัวมันเอง

แต่นี่กลับเป็นหน้าที่คมคายที่สุดเท่าที่ลี้ชิ้มฮัวเคยพบเห็นมา มาตรแม้นยังเยาว์วัยไปบ้าง ยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอ แต่ก็กอปรเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจชนิดหนึ่ง

ในดวงตาลี้ชิ้มฮัวคล้ายปรากฏรอยยิ้มขึ้น ผลักประตูรถออกกล่าวว่า "ขึ้นรถมา ข้าพเจ้าจะส่งท่านสักระยะหนึ่ง"

คำพูดของเขารวบรัดมีน้ำหนักตลอดมา ท่ามกลางฟ้าน้ำแข็งดินหิมะอันเวิ้งว้างสุดสายตาเช่นนี้ ข้อเสนอนี้เป็นสิ่งที่ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่สามารถปฏิเสธได้

หาคาดไม่ว่าบุรุษหนุ่มผู้นี้ กระทั่งมองดูยังไม่มองดูลี้ชิ้มฮัว ฝีเท้ายิ่งไม่หยุดชะงัก คล้ายกับไม่ได้ยินว่ามีคนกำลังกล่าววาจา

ลี้ชิ้มฮัวจึงกล่าว "ท่านเป็นคนหูหนวก?"

มือของบุรุษหนุ่มพลันยึกกุมด้ามกระบี่ที่ข้างเอว มือของมันถูกความหนาวคุกคามจนขาวเนื้อปลา แต่ความเคลื่อนไหวยังปราดเปรียวยิ่ง

ลี้ชิ้มฮัวยิ้มแล้ว ยิ้มพลางกล่าวว่า "ที่แท้ท่านมิใช่คนหูหนวก อย่างนั้นขึ้นมาดื่มสุราสักอึกหนึ่ง สุราอึกหนึ่งหาเป็นผลร้ายต่อผู้ใดไม่"

บุรุษหนุ่มพลางกล่าวว่า "ข้าพเจ้าไม่มีปัญญาดื่ม"

มันกล่าวคำพูดเช่นนี้ออกมา แม้แต่รอยย่นที่หางตาลี้ชิ้มฮัวยังปรากฏรอยยิ้มขึ้น แต่ไม่ได้หัวร่อออกเสียง เพียงกล่าวเสียงนุ่มนวลว่า "ข้าพเจ้าเลี้ยงสุราท่าน มิต้องให้ท่านจ่ายเงินซื้อหา"

บุรุษหนุ่มกล่าวว่า "มิใช่ของที่ข้าพเจ้าซื้อหามาเอง ข้าพเจ้าจะไม่ต้องการ มิใช่สุราที่ข้าพเจ้าซื้อหามาเอง ข้าพเจ้าก็จะไม่ดื่ม...ข้าพเจ้ากล่าวชัดเจนพอแล้วหรือไม่"

ลี้ชิ้มฮัวตอบว่า "ชัดเจนพอแล้ว"

บุรุษหนุ่มกล่าวว่า "ประเสริฐ ท่านไปเถอะ"

ลี้ชิ้มฮัวเงียบงันนิ่งนาน พลันยิ้มออกมากล่าวว่า "ตกลง ข้าพเจ้าไปแต่รอจนท่านมีปัญญาซื้อสุรา ท่านยิยยอมเลี้ยงข้าพเจ้าถ้วยหนึ่งหรือไม่?"

บุรุษหนุ่มถลึงมองลี้ชิ้มฮัวคราหนึ่ง กล่าวว่า "ได้ ข้าพเจ้าเลี้ยงท่าน"

ลี้ชิ้มฮัวหัวร่อดังๆ รถม้าแล่นตะบึงจากไป จวบจนไม่เห็นเงาร่างของบุรุษหนุ่มนั้นอีก ลี้ชิ้มฮัวหัวร่อพลางกล่าวว่า "ท่านเคยเห็นชายหนุ่มที่ประหลาดพิกลถึงเพียงนี้หรือไม่? ข้าพเจ้าความจริงเข้าใจว่ามันคงผ่านโลกมาอย่างโชกโชน คิดไม่ถึงคำพูดที่กล่าวกลับไร้เดียงสาปานนั้น สัตว์ซื่อปานนั้น"

ชายฉกรรจ์ที่เคราครึมที่ขับรถกล่าวอย่างเฉื่อยชาว่า "มันเพียงเป็นเด็กน้อยที่ดื้อรั้นคนหนึ่งเท่านั้น"

ลี้ชิ้มฮัวกล่าวถามว่า "ท่านเห็นกระบี่ที่เสียบอยู่บนสายรัดเอวของมันเล่มนั้นหรือไม่?" 

ในดวงตาของชายฉกรรจ์เคราครึ้มนั้นปรากฏรอยยิ้มขึ้น กล่าวว่า "นั่นนับเป็นกระบี่เล่มหนึ่งหรือ?"

กล่าวโดยเคร่งครัด นั่นไม่อาจนับเป็นกระบี่เล่มหนึ่งจริงๆ เพียงแต่เป็นแผ่นเหล็กที่มีความยาวสามเชียะท่อนหนึ่ง ทั้งไม่มีคมกระบี่และไม่มีโกร่งกระบี่ กระทั่งด้ามกระบี่ก็ไม่มี เพียงใช้ไม้เนื้ออ่อนสองแผ่นประกบปิดเอาไว้ ถือเป็นด้ามกระบี่แล้ว

ชายฉกรรจ์เคราครึ้มยิ้มพลางกล่าวว่า "ในความเห็นของเรา นั่นเพียงเป็นของเล่นของเด็กน้อยผูหนึ่งเท่านั้น"

ครั้งนี้ลี้ชิ้มฮัวมิเพียงไม่หัวร่อ กลับทอดถอนใจพึมพำว่า "ในความเห็นข้าพเจ้า ของเล่นชิ้นนี้อันตรายยิ่ง ยังคงอย่าได้ล้อเล่นกับมันประเสริฐกว่า"  อ่านตัวอย่างอีบุ๊ค มีดบินไม่พลาดเป้า เล่ม 1



อีบุ๊คชุดมีดบินไม่พลาดเป้า เล่ม 1-4

อีบุ๊ค มีดบินไม่พลาดเป้า เล่ม 1
โก้วเล้ง, น.นพรัตน์
www.mebmarket.com
เรื่องราวเล่าถึง มีดสั้นยาวสามนิ้วเจ็ดหนุของลี้น้อยหรือลี้ชิ้มฮัวที่ไม่เคยพลาดเป้าและเป็นที่ครั่นคร้ามทั้งยุทธจักรเล่าถึงอาฮุยมือกระบี่ผู้เงียบขรึมแต่ระอุอุ่นด้วยน้ำใจ เล่าถึงลิ้มเซียนยี้ สตรีผู้มีความงามปานล่มเมือง และเล่าถึงเซี่ยงกัวกิมฮ้งยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแผ่นดิน ทุกคนผูกพันบุญคุณความแค้นของยุทธจักรโก้วเล้งดำเนินเรื่องราวอย่างคมคายด้วยปรัชญา เข้มข้นด้วยบทบู๊อันรวบรัด สมกับที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดนวนิยายกำลังภายใจของมังกรโบราณท่านนี้

มีดบินไม่พลาดเป้า เล่ม 2
โก้วเล้ง, น.นพรัตน์
www.mebmarket.com
เรื่องราวเล่าถึง มีดสั้นยาวสามนิ้วเจ็ดหนุของลี้น้อยหรือลี้ชิ้มฮัวที่ไม่เคยพลาดเป้าและเป็นที่ครั่นคร้ามทั้งยุทธจักรเล่าถึงอาฮุยมือกระบี่ผู้เงียบขรึมแต่ระอุอุ่นด้วยน้ำใจ เล่าถึงลิ้มเซียนยี้ สตรีผู้มีความงามปานล่มเมือง และเล่าถึงเซี่ยงกัวกิมฮ้งยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแผ่นดิน ทุกคนผูกพันบุญคุณความแค้นของยุทธจักรโก้วเล้งดำเนินเรื่องราวอย่างคมคายด้วยปรัชญา เข้มข้นด้วยบทบู๊อันรวบรัด สมกับที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดนวนิยายกำลังภายใจของมังกรโบราณท่านนี้

มีดบินไม่พลาดเป้า เล่ม 3
โก้วเล้ง, น.นพรัตน์
www.mebmarket.com
เรื่องราวเล่าถึง มีดสั้นยาวสามนิ้วเจ็ดหนุของลี้น้อยหรือลี้ชิ้มฮัวที่ไม่เคยพลาดเป้าและเป็นที่ครั่นคร้ามทั้งยุทธจักรเล่าถึงอาฮุยมือกระบี่ผู้เงียบขรึมแต่ระอุอุ่นด้วยน้ำใจ เล่าถึงลิ้มเซียนยี้ สตรีผู้มีความงามปานล่มเมือง และเล่าถึงเซี่ยงกัวกิมฮ้งยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแผ่นดิน ทุกคนผูกพันบุญคุณความแค้นของยุทธจักรโก้วเล้งดำเนินเรื่องราวอย่างคมคายด้วยปรัชญา เข้มข้นด้วยบทบู๊อันรวบรัด สมกับที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดนวนิยายกำลังภายใจของมังกรโบราณท่านนี้


มีดบินไม่พลาดเป้า เล่ม 4 (จบ)
โก้วเล้ง, น.นพรัตน์
www.mebmarket.com
เรื่องราวเล่าถึง มีดสั้นยาวสามนิ้วเจ็ดหนุของลี้น้อยหรือลี้ชิ้มฮัวที่ไม่เคยพลาดเป้าและเป็นที่ครั่นคร้ามทั้งยุทธจักรเล่าถึงอาฮุยมือกระบี่ผู้เงียบขรึมแต่ระอุอุ่นด้วยน้ำใจ เล่าถึงลิ้มเซียนยี้ สตรีผู้มีความงามปานล่มเมือง และเล่าถึงเซี่ยงกัวกิมฮ้งยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแผ่นดิน ทุกคนผูกพันบุญคุณความแค้นของยุทธจักรโก้วเล้งดำเนินเรื่องราวอย่างคมคายด้วยปรัชญา เข้มข้นด้วยบทบู๊อันรวบรัด สมกับที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นสุดยอดนวนิยายกำลังภายใจของมังกรโบราณท่านนี้

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น