เจาะเวลามาเป็นมือปราบ

เขาคือนักเขียนชื่อดังแห่งยุค ผู้ประพันธ์นวนิยายกำลังภายในขนาดยาวที่ตีพิมพ์ต่อเนื่องมากว่าห้าสิบเล่ม ระหว่างขับรถเพื่อไปร่วมงานแฟนมีตติ้งที่ทางสำนักพิมพ์จัดขึ้น รถคู่ใจเกิดมีปัญหา พาร่างของเขาร่วงหล่นจากเนินเขา เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง กลับพบว่าตนเองกลายเป็น หลี่ซูเหวิน คุณชายช้ำรักแห่งตระกูลที่ล่มจมผู้หนึ่ง พร้อมกับข้าวของสารพัดที่ทะลุมิติติดตัวมาด้วย

National Geographic

อ่านนิตยสาร National Geographic ภาษาไทยในรูปแบบอีบุ๊ค

ARACHNID มือสังหารสายพันธุ์แมงมุม

"อลิซ" เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่อาศัยอยู่กับลุง วันหนึ่งเธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ลุงของเธอโดนฆ่าโดยนักฆ่าที่เรียกตัวเองว่า “แมงมุม” (คุโมะ) เธอหมดสติไปและเมื่อลืมตาขึ้นมาสิ่งที่เห็นคือตัวเองอยู่ในบ้านของ “แมงมุม” นั่น… แถมยังถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าโดย “แมงมุม” ที่ว่าอีกต่างหาก

KINDLE E-BOOK ลดสูงสุด 29%

สำหรับผู้ที่จริงจังกับการอ่าน Amazon Kindle เป็นเครื่องอ่านหนังสือที่ใช้งานง่าย ตัวอักษรคมชัด จอใหญ่ มีไฟในตัวเอง ทำให้อ่านได้แม้ในที่มืด น้ำหนักเบาพกพาสะดวก แบตเตอรี่อยู่ได้นาน ช่วยให้คุณพกพาห้องสมุดส่วนตัวไปอ่านได้ทุกที่และทุกเวลา

BEST ROMANTIC SET

The Host ร่าง...อุบัติรักข้ามดวงดาว, ลุ้นรักคุณพ่อกำมะลอ, บ่วงมนตรา เสน่หารัตติกาล A discovery of witches, ใต้เงารัตติกาล Shadow of Night

วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560

เซน ในการทำงานอย่าง เซียน




คำนำสำนักพิมพ์

เซน คือ การตื่นรู้ นิ่งว่าง วางทุกข์

เชียน คือ ผู้เก่งกาจในทางใดทางหนึ่ง

ผู้ทำงานอย่างเซนจนเป็นเซียน จึงตื่นรู้และพร้อมเก่งกาจในงานของตน โดยไม่ร่วมว้าวุ่นอย่างสูญเปล่าไปกับผู้คนรอบข้าง ได้ชื่อว่าเป็นผู้บรรลุแล้วถึงยอกเขาแห่งความไร้กังวล

คุณดังตฤณออกแบบให้หนังสือพาคุณเข้าถึงเซนด้วยการทำงานที่คุณกำลังทำอยู่ ด้วยขั้นตอนวิธีตลอดจนภาษาที่ชัดเจน เมื่อฝึกตามจนถึงที่สุด ก็จะพบว่าไม่ต้องรอถึงเวลาพักร้อน ความร้อนในที่ทำงานก็หายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
สำนักพิมพ์ฮาวฟาร์


สารบัญ

  • ชี้แจงแถลงไข
  • ตั้งเป้าเอารางวัลเป็นจิต
  • ระงับกระสับกระส่าย
  • เอาชนะตัวเอง เอาชนะความขี้เกียจ
  • ทำงานด้วย ค้นหาใจที่เย็นด้วย
  • ทำงานเหมือนทำทาน
  • คิดจากความว่าง
  • เก่งงานอย่างเป็นไปเอง
  • ไร้ทุกข์อย่างเป็นไปเอง


ชี้แจงแถลงไข

ก่อนถึงรายละเอียดว่า 'ทำอย่างไร' มาพูดคุยถึงเหตุผลว่า 'ทำไมต้องเซน' กันก่อนครับ

เซนกับนักทำงานระดับโลก

สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ผู้เป็นต้นกำเนิดไอโฟนนั้น เคยฝึกนั่งจ้องกำแพงว่างในวัดเซนแห่งแรกของอเมริกาอยู่หลายสัปดาห์

การนั่งจ้องกำแพงว่างอาจดูเหมือนบ้าสำหรับคนทั่วไป แต่นั่นเป็นหนึ่งในกรรมฐานของเซน ซึ่งได้แม่แบบมาจากหนึ่งในแม่ทัพเซนยุคบุกเบิก คือ ท่านโพธิธรรม ซึ่งว่ากันว่าท่านนั่งจ้องผนังถ้ำอยู่ถึง ๙ ปี

การจ้องกำแพงอย่างพอดีระยะ จะช่วยให้เกิดโฟกัสสายตาที่แน่นอน ไม่กลอกไปกลอกมาตามใจที่ฟุ้งซ่านเลื่อนลอย กำแพงจึงเหมือนจอว่างที่ช่วยให้ย้อนเข้ามาดูการทำงานของจิตได้ง่ายขึ้น กล่าวคือ เห็นว่าคิดว่าคิดอะไร เกิดภาพมิติเลือนรางหรือชัดเจนอย่างไร เกิดความสุขความติดใจ หรืออึดอัดอยากไปให้พ้น 'จอว่าง' ขึ้นมาเมื่อไหร่

ผลที่ต้องการ คือ ยกระดับจิตให้อยู่เหนือความคิด สามารถเท่าทันการก่อตัวของความคิด รู้เห็นกระบวนการมาและการไปของกลุ่มความคิดได้ ทางจิตวิทยายุคใหม่เรียกความสามารถในการรู้ความคิดตนเองว่า Metacognition ซึ่งมีนิยาม คือ thinking about thinking หรือ 'คิดถึงความคิด'

มีนักคอมพิวเตอร์บางคนเปรียบเทียบไว้ว่าถ้าทำเช่นนั้นได้ต่อเนื่องพอ ก็เหมือนแฮกระบบของสมองเข้าไปเห็นความลับก่อนเกิดความคิด ผู้ที่เข้าถึงจึงอาจ 'อัพเกรดระบบ' คือ แก้ไขหรือปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดอ่านเสียใหม่ หรือไม่ก็ใช้ประโยชน์ขั้นก้าวหน้า ในระดับสูงขึ้นทางจิตวิญญาณ เห็นความคิดไม่ใช่ตัวตน

สตีฟ จ็อบส์ ให้สัมภาษณ์ วอลเตอร์ ไอแซคสัน (Walter Isaacson) เพื่อเขียนหนังสือชีวประวัติเกี่ยวกับตนเองอย่างเป็นทางการ มีใจความสำคัญคือ ความเป็นนักคิดค้น หรือนักสร้างวิสัยทัศน์ในตัวเขา ได้รับอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงจากวินัยและการฝึกฝนแบบเซน

ไม่มีใครรู้ดีเท่า สตีฟ จ็อบส์ ว่าเขาได้อะไรดีๆ มาจากเซนบ้าง แต่มีคนอยากรู้อะไรดีๆ เกี่ยวกับเซนมากขึ้นเยอะ ในเมื่อหนึ่งในศิษย์เซนตลอดชีพอย่าง สตีฟ จ็อบส์ ทรงพลังขนาดพลิกโฉมหน้าวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งโลก แถมยังทำให้บริษัทแอปเปิ้ลที่เขาสร้างมากับมือ มีมูลค่าตลาดเป็นอันดับหนึ่งของโลกได้ก่อนตาย

ในการทำงานระดับโลกนั้น ปัจจุบันอยู่ในยุค 'คิดก่อน ได้ก่อน' ปัญหาคือ คิดได้นั้นไม่ยากแต่คิดในสิ่งที่เป็นของแปลกใหม่ โดนใจใช่เลย เข้าขั้นเรียกว่า 'นวัตกรรม' ได้เต็มปากเต็มคำนั้น ยากเย็น และไม่ทราบจะเอาหลักสูตรไหนมาเป็นหลักตั้ง

สตีฟ จ็อบส์ แค่พูดคำเดียวว่า หนังสือแนวคิดเชิงธุรกิจเล่มใด 'ต้องอ่านให้ได้' หนังสือเล่มนั้นก็แทบจะกลายเป็นหนังสือขายดีระดับข้ามชาติขึ้นมาทันทีแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจหากนิกายเซนซึ่ง สตีฟ จ็อบส์ ยกย่องให้เป็นหลักใจของเขาอยู่เสมอ จะกลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงในหมู่คนยุคไอที โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่ยึดถือ สตีฟ จ็อบส์ เป็นแบบอย่างหรือกรณีศึกษา

หนังสือ หลักสูตร หรือสัมมนาอบมพัฒนาทักษะการทำงานใด โยงเอาเซนมาเป็นแม่บท จึงไม่ถูกมองว่าเชย คร่ำครึ หรือเป็นปัญญาโบราณล้าสมัยอีกต่อไป เนื่องจากสินค้าไอทีที่มีดีไซน์ล้ำยุคพลิกโลกเช่นไอโฟน ก็ดูเหมือนจะมีรากมาจากปรัชญาแบบเซนนั่นเอง

แล้วจริงๆ มีอะไรน่ารู้เกี่ยวกับเซนบ้าง?

เซนคืออะไร?

เซน (Zen) คืออะไร เป็นพุทธนิกายมหายาน นับถือกันอย่างแพร่หลายในแถบเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี แม้กระทั่งในไทยก็มีผู้สนใจอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ชัดหน่อยก็เช่นหมู่บ้านพลัมซึ่งมีการปฏิบัติแบบเซนอยู่

คำว่า 'เซน' เป็นศัพท์ญี่ปุ่นที่ตรงกับคำว่า 'ฉาน' ในภาษาจีน (หากเป็นจีนแต้จิ๋วจะออกเสียงว่า 'เซี้ยง') ฉานจะมาจากคำว่า 'ธฺยาน' ในภาษาสันสกฤตอีกทอดหนึ่ง เมื่อเทียบถึงที่สุดแบบที่ชาวพุทธเรารู้จักกัน ธฺยานก็คือ 'ฌาน' ในภาษาบาลีนั่นเอง

ฌานคือจิตที่เข้าถึงความเป็น 'อัปปนาสมาธิ' คือ มีความแนบแน่นอยู่ในอารมณ์เดียวจิตใหญ่เป็นมหัคคตะ ไร้ความคิดอันเป็นเหตุให้ซัดส่ายจากความเป็นหนึ่ง จึงสว่างจ้าอยู่อย่างมั่นคงในช่วงเวลานานเต็มอิ่ม

แต่เซนไม่ใช่ฌานธรรมดา สาเหตุจริงๆ ที่ได้ชื่อว่า 'เซน' ก็เพราะวิถีแห่งเซนจะเน้นเรื่องการเข้าถึงสมาธิอันตื่นรู้ โดยไม่เกี่ยงว่าจะใช้วิธีดั้งเดิม คือขบปริศนาธรรมโกอาน หรือทำสมาธิจ้องกำแพงว่างที่เรียก 'ซาเซน' (Zazen) หรือฝึกลากพู่กันวาดวงกลมในชั่วหนึ่งลมหายใจที่เรียก 'เอนโซ่' (Ensō) โดยแบบวิธีเกี่ยวกับสมาธิต่างๆ เริ่มแพร่หลายในช่วงที่เซนถูกนำมาเผยแพร่ในญี่ปุ่น

ผู้ที่แจ่มแจ้งในเซน จะถึงซึ่งขณะหนึ่งแห่งการบรรลุ เป็นอิสระจากความเข้าใจผิด เรียกว่า 'ซาโตริ' ซึ่งเทียบกับทางเถรวาทก็คือ 'บรรลุมรรคผล' โดยขั้นสุดยอดของซาโตริจะทำลายอุปาทานที่กักขังบุคคลไว้ในวังวนทุกข์เสียได้ ไม่วนกลับมาอีก บริสุทธิ์แล้วบริสุทธิ์เลย เป็นความถาวรของ 'การไร้กระจกให้ฝุ่นจับ'

เซนได้รับอิทธิพลมาจากลิทธิขงจื๊อและลัทธิเต๋า ฉะนั้น ภาษา สำนวน ตลอดจนวิธีพูดถึงภาวะระดับสูง จึงละม้าย คล้าย หรือกระทั่งเหมือนกัน หลายคนสับสนระหว่างคำว่า 'เต๋า' กับ 'เซน' และ นึกว่าเป็นอันเดียวกัน ความจริงแล้วผู้ก่อตั้งเต๋า คือ เล่าจื๊อ เคยอธิบายไว้ว่า "ไม่ทราบจะเรียก 'สิ่งนั้น' ว่าอะไร จึงขอเรียกว่า 'เต๋า' ไปพลางๆ" หมายความว่า ท่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับซื่อมากนัก แต่สิ่งที่ท่านเรียก ก็คือนิพพานสำหรับเถรวาทเรานั่นเอง เพราะเล่าจื๊อเคยบรรยายไว้ว่าเต๋าคือสิ่งที่พ้นภาวะคู่ เช่นไม่มีสั้นไม่มียาว ไร้การกระทำ ไม่เป็นที่ตั้งให้สิ่งที่เราเคยๆ รู้จัก ไม่แม้แต่จะจินตนาการถึงสิ่งนั้นกันได้ ซึ่งพระพุทธเจ้าก็เคยตรัสถึงนิพพานโดยความเป็นเช่นนั้นเช่นกัน

อันที่จริงต้นตำหรับเซน น่าจะมีความใกล้ชิดหรือมีความเป็นพุทธดั้งเดิมมากกว่าเต๋า เพราะถือกำเนิดจากอินเดียอันเป็นประเทศแม่ของพุทธศาสนา ก่อนจะมีผู้นำเข้ามาในจีน แล้วกลายเป็น 'ศิลปะทางวิญญาณ' ในญี่ปุ่น ดังที่คนส่วนใหญ่ในโลกรู้จักกัน

ถ้านึกไม่ออกว่านิกายหนึ่งๆ ของพุทธเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็ขอให้นึกถึงชาวพุทธใกล้ๆ ตัวเราสักคน ที่ไม่ชอบพูดคุยกับนักวิชาการ แหนงหน่ายการถกเถียงว่าบัญญัติแบบใดผิดตลอดจนไม่ชอบเรื่องแวดล้อมอื่นๆ ทางศาสนา เช่น นรก สวรรค์ กฎแห่งกรรมวิบาก แต่อยากพูดถึงประสบการณ์ทางจิต ที่ตรง ที่เย็น ที่ตั้งมั่นรู้ออกมาจากความว่าง เป็นรสที่เหนือรส เป็นอภิสิทธิ์ของคนใจถึงที่พร้อมทิ้งโลก หากคนๆ นั้นแก่กล้าพอจะเผยแพร่แนวทางเข้าถึงประสบการณ์ทางจิตแบบพุทธะตรงๆ ได้ แล้วจะเรียกแนวทางของตนเองว่า 'เซน' หรืออะไรอื่น ก็ต้องมีคนยอมรับเป็นจำนวนมาก

ความโดดเด่นของเซนในโลกยุคไอที

ความโดดเด่นของเซน อยู่ตรงที่ความสามารถในการสื่อสาร 'พุทธะ' ให้เป็นที่รู้จักในโลกกว้างได้  โดยไม่จำเป็นต้องติดภาพพุทธที่ชัดเจนนัก ดังเช่นที่ชาวคริสเตียนนอกเขตเอเชียรวมตัวกันเรียกกลุ่มของตนเป็นนิกายชื่อ "คริสเตียนเซน" เป็นต้น

ปัจจุบันเซนในความรับรับรู้ของคนทั่วไป มักสื่อถึง 'ความเป็นพุทธที่นำมาใช้ได้จริงกับฆราวาส' นับเริ่มตั้งแต่มีพิธีชงชาแบบเซน การจัดดอกไม้แบบเซน การจัดสวนแบบเซน วิถีซามูไรแบบเซน การยิงธนูแบบเซน การเล่นหมากล้อมแบบเซน ซึ่งเน้นเรื่องพื้นฐานขณะจิตอันเป็นสมาธิแบบเซนก่อนเกิดการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเมื่อมีสมาธิแบบเซน ย่อมรู้จักความว่าง และนำไปจัดตำแหน่ง ส่งพลังเคลื่อนไหว ตลอดจนสร้างศิลปะที่เห็นแล้วรู้สึกถึง 'จังหวะแห่งช่องว่างอันเหมาะเจาะงดงาม' ด้วยตาเปล่า สร้างความรู้สึกสงบสุขได้ทันที

พูดง่ายๆ คนเข้าถึงความว่างอย่างเซน จะนึกอยากหาวิธีสะท้อนความรู้สึกว่างในตนให้ออกมาเป็นรูปธรรม ทางหนึ่งเพื่อจะฝึกสมาธิอยู่กับความว่าง และอีกทางคือเป็นการเผื่อแผ่ให้คนอื่นจะได้เกิดความรู้สึกแบบเดียวกัน หรือโน้มเอียงไปในทางเดียวกัน

พอถึงยุคอินเตอร์เน็ตเรา เซนได้พัฒนาเป็น 'ส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณแบบมืออาชีพ' ไปแล้ว กล่าวคือ ดูเหมือนใครๆ ในสาขาไหน ก็เอาเซนไปประยุกต์กับอาชีพของตนได้ หากจะสืบสำรวจแบบง่ายๆ เร็วๆ หน่อย ก็ให้ดูจากแหล่งหนังสือใหญ่อย่าง amazon.com   คุณจะพบทั้ง เซนในศิลปะการพยาบาล (Zen in the Art of Nursing) เซนแห่งการตลาดโซเชียลมีเดีย (The Zen of Social Media Marketing) เซนแห่งการเดี่ยวไมโครโฟน (Zen and the Art of Stand-Up Comedy) จิตวิทยาเซนแบบกระชับสั้น (ZEN PSYCHOLOGY In A Nutshell) หมากรุกเซน (Aen Chess) การตกแต่งภายในอย่างเซน (Zen Interiors) และอะไรต่ออะไรอีกไม่รู้เท่าไหร่

และเพียงใช้กูเกิลหาคำว่า 'Zen of' ผลลัพธ์เกี่ยวกับมุมมองเฉพาะทางอย่างเซน จะมีเป็นอเนกอนันต์นับไม่ถูก ทั้งนีเพราะชาวโลกจำนวนมากหันมาสนใจเซนในแบบที่เข้ากันกับสาขาอาชีพของตน ไม่ใช่เซนในฐานะของนิกายทางศาสนา มืออาชีพในศาสตร์ต่างๆ ที่หันมาเขียนหนังสือแนงเซน บางคนออกตัวเลยว่าไม่ใช่ชาวพุทธ แล้วก็ไม่ได้เข้าใจหลักเซนลึกซึ้ง แต่บังเอิญไปสะดุดเข้ากับถ้อยคำชวนสงบและก่อปฏิภาณอย่างเซน ตลอดจนเห็นความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณแบบมืออาชีพเช่นตน

โดยแก่นของเซนประยุกต์ มืออาชีพทางศาสตร์และศิลป์แบบโลกๆ จะ 'ขอยืม' หลักเซนมาเป็นตัวตั้งเพื่อให้เกิดความคิดรวบยอดเท่านั้นไม่ได้เน้นจาระไนเซนโดยพิสดารแต่ประการใดหรืออาจกล่าวว่า 'เซน' ได้กลายเป็นศัพท์สาธารณะนำไปประยุกต์ได้ตามมุมมองที่แต่ละคนประสบสัมผัสหรือประทับใจ หาใช่เซนตามแบบฉบับดั้งเดิมไม่

เซนในมุมมองของดังตฤณ

โดยมุมมองส่วนตัว ผมเริ่มเข้าใจและเชื่อว่าเซนไม่ใช่พุทธแตกแถว ครั้งแรกก็เมื่อเห็นเอนโซ่ซึ่งเป็นภาพวาดวงกลมสื่อพลังแห่งการรู้แจ้ง อาณาจักรความว่างอันยิ่งใหญ่ และภาพนั้นมีคำบรรยายประกอบอยู่สามบรรทัด คือ
ภายนอก - ว่างเปล่า
 ภายใน - ว่างเปล่า
ทั้งภายในและภายนอก - ว่างเปล่า




ศิลปะเอนโซ่อันประกอบถ้อยคำอันทรงพลังแห่งเซนนั้น ทำให้ผมสัมผัสรู้สึกจิตของเหล่าอริยบุคคลผู้สามารถรู้จักอารมณ์แห่งสมาธิจิตอันว่าง (สุญญตะ) ไม่มีนิมิต (อนิมิตตะ) ไม่มีที่ตั้ง (อัปปณิหิตะ) ซึ่งเป็น 'ว่างอย่างรู้' อันลึกซึ้ง เข้าถึงรสอันเหนือรส (หมายเหตุ - ความรู้สึกว่าว่าง ไม่มีนิมิต ไม่มีที่ตั้ง นั้นไม่ใช่นิพพาน แต่เป็นความรู้สึกเป็นภาวะปรุงแต่งทางจิต ดังที่สมัยพุทธกาลเคยมีผู้สัมภาษณ์ท่านธรรมทินนาภิกษุณี ที่สามารถเข้านิโรธสมาบัติแล้วรู้สึกอย่างไร ท่านตอบว่า ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้น คือ ว่าง ไม่มีนิมิต ไม่มีที่ตั้ง)

ความรู้สึกถึง 'ว่างนอก ว่างใน ว่างทั้งในและนอก' นั้น แม้ในหลักปฏิบัติสติปัฏฐานที่พระพุทธเจ้าประทานแนวทางไว้ ก็มีอยู่ คือ ท่านให้เห็นกายใจทั้งภายใน (ของเรา) ทั้งภายนอก (ของคนอื่น) ทั้งภายในและภายนอก (คือเห็นเราเห็นเขาควบคู่พร้อมกันไป) ซึ่งแต่ละการเห็น ย่อมกะเทาะเปลือกตัวตน เกิดความรู้สึกว่างจากตัวตนไปทีละเปลาะ กระทั่งกะเทาะออกได้หมดไม่มีเหลือ แปรความรู้สึกยึดติดเหนียวแน่นทั้งข้างในและข้างนอก เป็นความวาง ว่างสนิท ไม่มีธรรมอันเป็นภายในหรือภายนอกเกาะกุมหุ้มห่อจิตได้อีก

ด้วยแก่นของเซนที่สื่อตรงถึงแก่นเดิมของพุทธ ผมจึงเชื่อว่าถ้าพูดถึง 'พุทธะ' ในความหมายของเถรวาทเรา ก็คือพูดถึง 'เซน' ในความหมายของมหายานนั่นเอง

หลายปีที่ผ่านมา มีผู้ขอให้ผมเขียนหนังสือเกี่ยวกับการทำงานกันหลายคน ซึ่งผมเห็นประโยชน์ แต่ก็ไม่อยากเขียนเนื้อหาที่มีชื่อหนังสือประมาณ 'ทำงานแบบพุทธ' หรือ 'เข้าถึงพุทธะด้วยการทำงานแบบโลกๆ' เนื่องจากโดยความเห็นส่วนตัว ผมไม่คิดว่า 'พุทธะ' สมควรนำมาผูกโยงกับการทำงานแบบโลกๆ 

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คำว่า 'พุทธะ' ยังคงสืบทอดความเป็น 'ของสูง' มาโดยตลอด กล่าวคือ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จากการเจริญสติปัฏฐานตามแนวทางดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า หากมีการนำคำนี้ไปใช้ในทางอื่น ผมคงอยากคัดค้านมากกว่าสนับสนุน

แต่คำว่า 'เซน' นั้น นับแต่อดีตถึงปัจจุบันได้ทำประโยชน์กว้างขวาง เผยแผ่พระสัทธรรมด้วยเส้นทางที่บางทีอาจถูกวิจารณ์ว่าเป็น 'ใต้ดิน' แต่ก็ประสบความสำเร็จจริง คือ ลากจูงคนไม่เข้าใจพุทธให้หันมาสนใจ ศึกษา ตลอดจนเข้าถึง 'เซนแบบพุทธจริงๆ' ได้ในภายหลัง

ฉะนั้น ถ้าจะ 'ขอยืม' ยี่ห้อเซนมาเป็นแกนกลางในการสื่อความเข้าใจว่า จะทำงานโลกๆ ด้วยจิตแบบไหน จึงเขยิบเข้าใกล้ความเป็นพุทธะกันได้ก็น่าจะเป็นเรื่องน่ายอมรับกว่ากัน

สำหรับมือใหม่ ผมพบว่าอาศัยเซนเป็นแกนเขียนเกี่ยวกับวิธีทำงานอย่างพุทธนั้น ช่วยขจัดความยุ่งยากเกี่ยวกับการจดจำศัพท์แสง ให้ความรู้สึกว่าพุทธอยู่ใกล้ตัว ทำได้จริง ไม่สูงส่งเกินเอื้อม

ส่วนผู้ที่ฝักใฝ่การเจริญสติมานาน ก็จะได้เห็นช่องทางเป็นไปได้จริงที่จะทำงานไปด้วย  เจริญสติไปด้วย ปลดเลื้องข้ออ้างที่ว่า 'ต้องทำงาน ไม่มีเวลาเจริญสติ' กันได้เสียที

เซนในการทำงานเหมาะกับใคร?

อย่างที่บอกครับว่า เซนแตกต่างจากพุทธแบบที่ไทยคุ้นเคย ผู้นิยมแนวเซน ควรเป็นผู้ที่ต้องการประสบการณ์ทางจิต โดยไม่ต้องคุยกัน เรื่องแวดล้อมอื่นๆ ลองนึกถึงฝรั่งที่ไม่มีคนใกล้ตัวพูดเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดเ้าหูเลย สนใจแต่เรื่องทำมาหากิน ซึ่งพอทำๆ ไปแล้วก็เครียด เป็นทุกข์เป็นร้อน อยากได้แนวทางทำงานที่ช่วยให้รับมือความกดดันในที่ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งพอฟังเรื่องเกี่ยวกับเซนในที่ทำงานว่าช่วยได้ รับรองว่าเย็นใจเข้าเป้า เขาก็คงไม่สนใจว่าจะแตกแขนงมาจากพุทธที่ปลูกศรัทธากันด้วยหลักกรรมวิบาก แต่สนใจว่าเซนมีคำแนะนำอย่างไร ช่วยให้ 'เครื่องร้อนน้อยลง' ด้วยวิธีไหน

ภาษาของเซน เป็นภาษาของประสบการณ์ตรงทางจิต ฉะนั้น หากจิตแบบเซนคือความสงบเย็น ก็เป็นธรรมดาที่ถ้อยคำแห่งเซนคล้ายเป็นลำนำแห่งความสงบ จากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาให้เข้าถึงความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หากคุณอ่านแล้วได้ความสงบ รู้สึกมีสติ ตื่นตัว ไม่จมจ่อมเซื่องซึม ตลอดจนอยากฝึกทำงานเพื่อรักษาสภาพความสงบอย่างตื่นรู้เอาไว้ อันนั้นก็แปลว่าวิถีแห่งเซนเหมาะกับคุณแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้เซนจะมีเอกลักษณ์ในเรื่องความสงบอย่างง่ายดาย ชวนให้ผู้ศึกษาเข้าใจว่านามธรรมอันลุ่มลึกอาจเข้าถึงได้ด้วยวิถีแห่งความเรียบง่าย ไม่ต้องทำอะไรมาก กระทั่งเกิดความคาดหวังว่า อ่านหนังสือเกี่ยวกับเซนจบ จะสงบต่อไปชั่วนิรันดร์ ถ้าคุณคิดเช่นนั้น ก็ขอให้เปลี่ยนความเข้าใจไว้แต่เนิ่นๆ 

ใจคนเราถูกปรุงแต่งไปเรื่อยตามสิ่งที่เข้ามากระทบ เหมือนอาบน้ำเย็น ย่อมรู้สึกว่าตัวเย็นลง และมีความสดชื่นกว่าตอนออกกำลังกายเหนื่อยๆ ร้อนๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า คุณจะเย็นและสดชื่นเช่นนั้นตลอดไป

บนวิถีแห่งเซน คุณจะได้เรียนรู้ว่าก่อนจะถึงความเรียบง่ายได้จริง คนเราต้องผ่านความยุ่งยาก และถางทางลำบากให้หมดเสียก่อน

หนังสือเล่มนี้ ไม่ได้สอนให้ขบปริศนาธรรม ไม่ได้สอนให้ทำซาเซน ไม่ได้สอนให้วาดเอนโซ่ แต่สอนให้ใช้งานที่คุณทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ในการเข้าถึงเซน หรืออย่างน้อยที่สุดก็อยู่บนวิถีแห่งเซน

เนื้อหาของหนังสือออกแบบมาให้คุณอ่านแล้วส่องย้อนเข้ามาในจิต เห็นพัฒนาการทางจิตที่ขยับใกล้เซนเข้าไปเรื่อยๆ โดยแต่ละบทจะบอกว่าจิตแบบเซนเป็นอย่างไร จากนั้นจึงบอกวิธีการที่ชัดเจนตรงไปตรงมา ว่าจะเข้าถึงแง่มุมนั้นๆ ของจิตแบบเซนได้อย่างไร

ระหว่างอ่านหนังสือ คุณจะไม่พบข้อแตกต่างระหว่างวิถีพุทธแบบเซน เนื่องจากผมคัดเลือกไว้เฉพาะที่ลงกันได้สนิทโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีทำสมาธิ ซึ่งจะมีความพิเศษตรงคำอธิบายประกอบภาพ อ่านวิธีการพร้อมมองภาพแล้วนำไปทำตามได้ทันที เห็นผลที่เกิดขึ้นตามภาพทันที

แม้จะเน้นการเข้าถึงเซนเพียงใด หนังสือก็ไม่ลืมว่าคุณต้องการเก่งงานมากกว่าเก่งนิ่ง ฉะนั้นเนื้อหาทั้งหมดจึงพุ่งเข้าหาเป้าหมายสำคัญ คือ นิ่งว่างอย่างเซนเพื่อเป็นเซียนในงาน ควบคู่ไปกับการเห็นการทำงานของจิตเพื่อไร้ทุกข์อย่างเป็นไปเองซึ่งนั่นควรนับเป็นความน่าพอใจสูงสุดสำหรับคนเมืองแล้ว จริงไหม?

ดังตฤณ
เมษายน ๕๖

เมื่อใจนิ่งว่างเป็นฐาน
จะฟุ้งซ่านในงานเพียงใดก็ไม่กระเจิง
Howfarbooks.com

เซ็นแบบพุทธทาส
วัชระ เซน
www.mebmarket.com
"ถ้าเรารู้จักปัจจัยที่ทำให้สุข เราก็จะสุขได้แม้กายเราไหวใจก็สงบ"
เสียงอ่านหนังสือ  "เซนในการทำงานอย่างเซียน"

คู่มือสร้างเว็บไซต์ด้วย HTML5, CSS3 & JavaScript ฉบับสมบูรณ์



Introduction

ปัจจุบันเว็บไซต์ต่างๆ มีจุดประสงค์และรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาของเว็บไซต์ที่ต่างกันออกไป เช่น Facebook เป็นเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network สำหรับการพบปะพูดคุยกัน, Bloggang เป็นเว็บไซต์สำหรับให้สมาชิกสร้างพื้นที่ส่วนตัวในการนำเสนอเนื้อหาต่างๆ หรือ Weloveshoping เป็นเว็บไซต์สำหรับการนำเสนอสินค้าและซื้อขายสินค้าแบบออนไลน์ เป็นต้น รวมไปถึงเว็บไซต์ขององค์กรต่างๆ ก็ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้สำหรับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรด้วย

เทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยเอื้อให้เว็บไซต์ต่างๆ สามารถนำเสนอเนื้อหาได้อย่างมีสีสันและมีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้น ภาษาที่ใช้สำหรับพัฒนาเว็บไซต์ เช่น JavaScript และ CSS รวมไปถึง HTML ก็ถูกพัฒนาให้มีความสามารถมากขึ้น จาก HTML 4.0 มาเป็น HTML5 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดที่เรียกได้ว่าเป็นการปรับปรุงการพัฒนาเว็บไซต์ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เนื่องจากคุณสมบัติใหม่ของ HTML5 ช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์นั้นมีลูกเล่นต่างๆ ที่สามารถรองรับการทำงานของผู้ใช้งานได้มากขึ้น

หนังสือเล่มนี้จะนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับ HTML5, JavaScript, และ CSS3 โดยจะแนะนำคุณสมบัติใหม่ของ HTML5 เช่น Canvas, Semantic Markup, Geolocation, Local Storage เป็นต้น โดยเริ่มอธิบายตั้งแต่ลักษณะเด่นของคุณสมบัติแต่ละประเภท รูปแบบการนำคุณสมบัติแต่ละประเภทไปใช้งาน รวมถึงตัวอย่างโค้ดโปรแกรมแบบง่ายๆ ไปจนถึงขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีการปูพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งอาจยังไม่เคยศึกษาภาษา HTML, JavaScript, หรือ CSS ในเวอร์ชั่นเดิมมาก่อนด้วย

ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษา HTML5 เป็นอย่างดี และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาเว็บไซต์ตามที่ต้องการ
กังวาน อัศวไชยวศิน




Contents

CHAPTER 01 : เปิดตัว HTML5

 เหตุผลที่ควรศึกษา HTML5

- HTML5 เป็นเทรนใหม่ของการพัฒนาเว็บไซต์
- รู้ HTML ก็สร้างรายได้ง่ายๆ
- HTML5 มีคุณสมบัติใหม่ที่โดดเด่นช่วยให้การพัฒนาเว็บเพจเป็นเรื่องง่าย

  • Canvas
  • Audio/Video
  • Semantic markup
  • Geolocation
  • Drag and Drop
  • Local Storage
  • ContentEditable
  • Form Enhancement

HTML5 แตกต่างจาก HTML เวอร์ชั่นก่อนอย่างไร?

Modernnizr... ตรวจสอบว่า HTML5 ทำงานบนเว็บบราวเซอร์ใดได้บ้าง

- วิธีการดาวน์โหลด Modernizr
- วิธีเรียกใช้งาน Modernizr

Dreamveaver กับการสร้างเว็บเพจด้วย HTML5

- เริ่มต้นใช้งาน Dreamweaver
- สร้างเว็บเพจใหม่ด้วย HTML5 โดยใช้โปแกรม Dreamweaver
- บันทึกเว็บเพจในโปรแกรม Dreamweaver
- การเรียกดูผลลัพธ์ของเว็บเพจ

CHAPTER 02 : ปรับแต่งเว็บเพจด้วย CSS3

CSS3

- Selector
- Background, Border และ Text
- Multicolumn Layout
- Web Font
- RGBA, HSL, HSLA
- Gradient

CHAPTER 03 : Canvas วาดภาพสารพัดนึกบนเว็บเพจ

Canvas คืออะไร

- การเรียกใช้งาน Canvas ในเว็บเพจ

Canvas กับเว็บบราวเซอร์

Canvas Context

พิกัดของ Canvas

การลากเส้น วาดรูป และระบายสีบน Canvas

- การระบายสีบนพื้นที่ภายใน Path
- การวาดสี่เหลี่ยม
- การลบสีและเส้นบน Canvas
- การวาดเส้นโค้งและวงกลม

การแสดงข้อความบน Canvas

การแสดงรูปภาพบน Canvas

วาดการ์ตูนบน Canvas

จาก Flash สู่ HTML5

- Wallaby
- Google Swiffy

CHAPTER 04 : Audio & Video เสียงและภาพแบบไม่ต้องพึ่งพา Plug-in

ทำไมต้องเพิ่มแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO>?

การเรียกใช้งานแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO> ในเว็บเพจ

- เรียกใช้งานแท็ก <VIDEO>
- เรียกใช้งานแท็ก <AUDIO>

ตรวจสอบการรองรับการทำงานของแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO>

Format และ Codec ของไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียง

- Format และ Codec เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
- ประเภทของไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียงสำหรับแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO>
  • การเรียกใช้แท็ก <VIDEO>
  • การเรียกใช้แท็ก <AUDIO>

Modernizr กับการตรวจสอบประเภทของไฟล์

การให้เว็บบราวเซอร์เลือกโหลดไฟล์ด้วยแท็ก <SOURCE>

คุณสมบัติต่างๆ ของแท็ก <VIDEO>

- ตัวอย่างการใช้งานคุณสมบัติต่างๆ ของแท็ก <VIDEO>
  • กำหนดคุณสมบัติ Autoplay
  • กำหนดคุณสมบัติ Muted
  • กำหนดคุณสมบัติ Poster

คุณสมบัติต่างๆ ของแท็ก <AUDIO>

ควบคุมการทำงานของแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO> ด้วย JavaScript

- การโหลดไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงให้แสดงผล
- การสั่งเล่น/หยุดเล่นไฟล์วิดีโอชั่วคราว
- การปิด/เปิดเสียง
- การปรับระดับความดังของเสียง
- การสั่งให้แสดงผลไฟล์วิดีโอแบบวนซ้ำ
- การเลื่อนเนื้อหาไฟล์วิดีโอไปยังตำแหน่งที่ต้องการ

<CANVAS> ช่วยเพิ่มลูกเล่นการแสดงผลไฟล์วิดีโอ

- หลักการทำงานของการแสดงผลไฟล์วิดีโอ
- หลักการกำหนดเอฟเฟ็คต์ให้กับไฟล์วิดีโอด้วย Canvas
  • การประกาศแท็ก <CANVAS> ให้ทำงานร่วมกับแท็ก VIDEO
  • การดึงภาพในแต่ละเฟรมของไฟล์วิดีโอเพื่อนำไปกำหนดเอฟเฟ็คต์
  • โครงสร้างของภาพในแต่ละเฟรม
  • การกำหนดเอฟเฟ็คต์ให้กับภาพในแต่ละเฟรม

ตรวจสอบข้อผิดพลาดในการแสดงผลไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียง

- Streaming กับ HTML5

CHAPTER 05 : Semantic Markup แท็กใหม่ไฉไลกว่าเดิม

Semantic Markup คืออะไร

แท็ก <DIV> กับ Semantic Markup

Semantic Markup กับ Search Engine

การใช้งาน Semantic Element

- แท็ก <HEADER>
- แท็ก <FOOTER>
- แท็ก <NAV>
- แท็ก <ARTICLE>
- แท็ก <SECTION>
- แท็ก <ASIDE>
- แท็ก <HGROUP>
- แท็ก <FIGURE> และ <FIGCAPTION>


CHAPTER 06 : คุณอยู่ที่ไหน? บอกง่ายๆ ได้ด้วย Geolocation

Geolocation คืออะไร

Latitude Longitude

Geolocation กับการ check-in ตำแหน่งที่อยู่

การทำงานของ Geolocation API

การใช้งาน Geolocation API

รายละเอียดของข้อมูลพิกัด

จัดการกับ Error กรณีค้นหาข้อมูลพิกัดไม่สำเร็จ

กำหนดรายละเอียดของการค้นหาพิกัดด้วย Options

การค้นหาพิกัดขณะเคลื่อนที่

การทำงานร่วกับแผนที่


- รู้จักกับ Google Maps
- การแสดงผล Google Maps ในหน้าเว็บเพจ
- การปักหมุดแสดงตำแหน่งบนแผนที่
- สร้าง GPS แบบง่ายๆ ด้วย Google Maps

CHAPTER 07 : Drag and Drop ลากวางง่าย ๆ อย่างใจคิด

ทำไมต้อง Drag and Drop?

ทำอย่างไรให้เนื้อหาบนหน้าเว็บเพจถูกลากได้

วางเนื้อหาที่คลิกลากมาบนหน้าเว็บเพจได้อย่างไร

Drag and Drop กับการทำงานร่วมกับ Canvas

- อธิบายการทำงานของโปรแกรม

CHAPTER 08 : Local Storage เก็บข้อมูลแบบถาวรบนเครื่องผู้ใช้งาน

การเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานด้วยคุกกี้

- คุกกี้คืออะไร
- การทำงานของคุกกี้
- ข้อจำกัดและช่องโหว่ของคุกกี้ 

HTML5 Web Storage

LocalStorage เก็บ้อมูลแบบถาวรบนเครื่องผู้ฝช้งาน

- ความแตกต่างระหว่างคุกกี้และ LocalStorage
- ตรวจสอบการรองรับคุณสมบัติ LocalStorage ของเว็บบราวเซอร์
- การเก็บและเรียกใช้ข้อมูลใน LocalStorage 
  • ตัวอย่างที่ 1 : การเก็บและดึงค่าสีพื้นหลังของเว็บเพจใน localStorage 
- การเรียกใช้งาน localStorage แบบอาร์เรย์
  • ตัวอย่างที่ 2 : การเก็บและดึงค่าสีพื้นหลังของเว็บเพจใน localStorage แบบอาร์เรย์
- การเก็บและดึงค่าข้อมูลชนิดออบเจ็คใน localStorage
  • ตัวอย่างที่ 3 : การเก็บและดึงค่าคะแนนซึ่งเป็นข้อมูลชนิดออบเจ็คใน localStorage
- ทราบได้อย่างไรว่าพื้นที่เก็บข้อมูลใน localStorage เต็ม
- การลบข้อมูลใน localStorage

  • ตัวอย่างที่ 4 : การเคลียร์ค่าคะแนนใน localStorage

sessionStorage : เก็บข้อมูลชั่วคราวบนเครื่องผู้ใช้งาน

การเลือกใช้งาน localStorage หรือ sessionStorage

เก็บข้อมูลในแบบฐานข้อมูลด้วย Web SQL Database และ IndexedDB

- Web SQL Database
- IndexedDB
- อนาคตของ Web SQL Database และ IndexedDB

CHAPTER 09 : ContentEdiatable แก้ไขข้อมูลได้ทันใจต้องการ

การแก้ไขข้อมูลบนหน้าเว็บเพจ

ContentEdiatable กับแท็ก HTML
- การกำหนดค่าให้กับคุณสมบัติ ContentEditable

- การแสดงผลของเว็บบราวเซอร์เมื่อกำหนด contenteditable=true

เหตุการณ์ของเว็บบราวเซอร์ที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติ ContentEdiatable

ContentEditable กับการทำงานร่วมกับ Local Storage

การประยุกต์ใช้งานคุณสมบัติ ContentEditable

CHAPTER 10 : เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฟอร์มด้วย Form Enhancement

HTML Form และ Input Element คืออะไร

HTML Form กับ JavaScript

ทำไมจึงต้องเพิ่ม Input Element ใหม่ใน HTML5

Input Element ใหม่ใน HTML5 มีอะไรบ้าง

- ตัวอย่างที่ 1 : ประยุกต์การทำงานของเกม TicTacToe
- ตัวอย่างที่ 2 : เว็บไซต์รับสมัครงาน
  • Search element
  • Number element
  • Email element
  • Telephone element
  • Telephone element
  • URL element
  • Range element
  • Date element
  • Datetime element
  • Datetime-local element
  • Time element
  • Month element
  • Week element

แท็กใหม่ใน HTML5 ที่ช่วยเสริมการทำงานของฟอร์ม

- แท็ก <DATALIST>
- แท็ก <OUTPUT>

คุณสมบัติใหม่ใน HTML5 ที่ช่วยเสริมการทำงานของฟอร์ม

- valueAsNumber
- Placeholder
- Autofocus
- Required
- Novalidate

CHAPTER 11 : สร้าง Mobile Website ด้วย HTML5 

สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตคืออะไร

- Mobile Website คืออะไร
- ความละเอียดหน้าจอของอุปกรณ์พกพา

เตรียมพร้อมก่อนสร้าง Mobile Website

- การติดตั้ง JDK (Java Development Kit)
- การติดตั้ง Android SDK
- การสร้าง Android Emulator
- การเรียกใช้งาน Android Emulator

การเรียกเปิดเว็บเพจด้วย Android Emulator

เริ่มต้นสร้าง Mobile Website 

การเลือกแสดงผลระหว่างเว็บไซต์ปกติและ Mobile Website

APPENDIX A: พื้นฐาน HTML

HTML คืออะไร

คอมเมนต์ใน HTML

โครงสร้างของภาษา HTML

- ส่วนหัวของเอกสาร HTML (เรียกว่า HEAD)
- ส่วนเนื้อหาของเอกสาร HTML (เรียกว่า BODY)

สรุปแท็กของภาษา HTML

- แท็กสำหรับการแสดงผล
- แท็กของฟอร์ม
- แท็กของรูปภาพ
- แท็กของตาราง
- แท็กของการจัดกลุ่มข้อความ
- แท็กของการแสดงรายการ

APPENDIX B : พื้นฐาน CSS

คอมเมนต์ใน CSS

วิธีการกำหนดสไตล์ของ CSS

การนำ CSS ไปใช้งานกับ HTML

- External Style Sheet
- Internal Style Sheet
- Inline Style Sheet

การกำหนดค่าคุณสมบัติใน CSS

- ค่าคุณสมบัติที่ระบุขนาด
- ค่าคุณสมบัติเพื่อระบุฟอนท์
- ค่าคุณสมบัติเพื่อระบุสี

รูปแแบบการประกาศ Selector ใน CSS

- Contextual Selector
- ID Selector
- Class Selector

APPENDIX C : พื้นฐาน JavaScript

JavaScript คืออะไร

- ตำแหน่งของ JavaScript ในเว็บเพจ

หลักการเขียนโปรแกรมภาษา JavaScript

รูปแบบไวยากรณ์ (Syntax) ของคำสั่งใน JavaScript

ตัวแปรของภาษาใน JavaScript

กฎการตั้งชื่อตัวแปรภาษา JavaScript 

Operator ใน JavaScript

การทำงานแบบวนซ้ำใน JavaScript

- การทำงานของลูป While
- การทำงานของลูป for

การกำหนดเงื่อนไขการทำงานใน JavaScript

ฟังก์ชั่นใน JavaScript

- การประกาศฟังก์ชั่น
- ตัวแปรในฟังก์ชั่น

ออบเจ็ค(Object) ใน JavaScript

- Built-in Object
  • Built-in Function
- Custom Object
- DOM Object
  • การเรียกใช้งานออบเจ็คบน DOM
  • การสร้างออบเจ็คเพิ่มเข้าไปในโครงสร้างของ DOM
  • Event ของออบเจ็ค DOM

01 : เปิดตัว HTML5

HTML5 เป็นภาษา HTML (HyperText Markup Language) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่ W3C พัฒนาขึ้นต่อจาก HTML 4.01 ซึ่งเป็นตัวมาตรฐานก่อนหน้านี้ โดย HTML5 ได้เพิ่มคุณสมบัติต่างๆ ขึ้นมามากมาย เพื่อช่วยให้การพัฒนาเว็บเพจสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้มากขึ้น 

คู่มือสร้างเว็บไซต์ด้วย HTML 5 CSS 3 & JavaScript ฉบับสมบูรณ์
กังวาน อัศวไชยวศิน และ อรพิน ประวัติบริสุทธิ์
www.mebmarket.com
หนังสือเล่มนี้จะนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับ HTML5, JavaScript และ CSS3 โดยจะแนะนำคุณสมบัติใหม่ของ HTML5 เช่น Canvas, Semantic Markup, Geolocation, Local Storage เป็นต้น โดยเริ่มอธิบายตั้งแต่ลักษณะเด่นของคุณสมบัติแต่ละประเภท รูปแบบการนำคุณสมบัติแต่ละประเภทไปใช้งาน รวมถึงตัวอย่างโค้ดโปรแกรมแบบง่ายๆไปจนถึงขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีการปูพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งอาจยังไม่เคยศึกษาภาษา HTML, JavaScript หรือ CSS ในเวอร์ชั่นเดิมมาก่อนด้วย

วีดีโอสอน HTML5  1-10

วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560

จูบกบตัวนั้นซะ : Kiss That Frog


12 วิธีมองให้เห็น "โอกาส" ในทุก "ปัญหา" พลิกความคิดจากลบให้เป็นบวกในทุกสถานการณ์

เนื้อหาโดยสังเขป   

  กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเจ้าหญิงรับข้อเสนอของกบหน้าตาอัปลักษณ์หากเธอก้มลงจูบมัน มันจะกลายร่างเป็นเจ้าชายและแต่งงานกับเธอ แล้วการตัดสินใจนั้นก็เปลี่ยนชีวิตของเธอไปชั่วนิรันดร์ในชีวิตของคุณปัญหา อุปสรรคและความล้มเหลวก็ไม่ต่างจากกองทัพกบน่าขยะแขยงที่ดาหน้ากันมาทักทายไม่เว้นแต่ละวันคุณเลือกได้ว่าจะก้มลงจูบแล้วเจอสิ่งที่ดีกว่าหรือเบือนหน้าหนีแล้วทนอยู่กับมันต่อไป แต่การตัดสินใจเลือกก็อาจทำให้ชีวิตของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป    

 หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเทคนิคอันแสนเรียบง่ายและผ่านการพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลจริง เพื่อช่วยให้คุณมองเห็นเจ้าชายรูปงามที่ซ่อนอยู่ในกบหน้าตาอัปลักษณ์และกล้าที่จะก้มลงจูบเพื่อปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระไปสู่ชีวิตที่สมปรารถนาในทุกๆ ด้านหลังจากอ่านจบ คุณจะสามารถเปลี่ยนทุกความคิดลบให้กลายเป็นบวกมองเห็นโอกาสในทุกปัญหาและอุปสรรค รวมถึงขจัดประสบการณ์อันเลวร้ายและบาดแผลในใจทิ้งไปจากชีวิตตลอดกาล 


สารบัญ 

1. ความจริงเจ็ดประการเกี่ยวกับตัวคุณ 
2. จินตนาการถึงเจ้าชายรูปงาม 
3. จ้องหน้ากบของคุณตรงๆ 
4. กำจัดกบน่าขยะแขยงออกไปจากหนองน้ำของคุณ
5. สูบน้ำออกจากหนองน้ำของคุณ 
6. เปลี่ยนน้ำในหนองน้ำของคุณ 
7. มองหาความงามในตัวกบ 
8. กระโดดไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ 
9. จูบลากบน่าขยะแขยงของคุณ 
10. คาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดจากกบของคุณ 
11. ปล่อยวางอดีต 
12 เคล็ดลับเจ็ดประการสู่การเป็นคนคิดบวกอย่างแท้จริง




หนังสือเสียง "จูบกบตัวนั้นซะ : Kiss That Frog" ฟังฟรี