เจาะเวลามาเป็นมือปราบ

เขาคือนักเขียนชื่อดังแห่งยุค ผู้ประพันธ์นวนิยายกำลังภายในขนาดยาวที่ตีพิมพ์ต่อเนื่องมากว่าห้าสิบเล่ม ระหว่างขับรถเพื่อไปร่วมงานแฟนมีตติ้งที่ทางสำนักพิมพ์จัดขึ้น รถคู่ใจเกิดมีปัญหา พาร่างของเขาร่วงหล่นจากเนินเขา เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง กลับพบว่าตนเองกลายเป็น หลี่ซูเหวิน คุณชายช้ำรักแห่งตระกูลที่ล่มจมผู้หนึ่ง พร้อมกับข้าวของสารพัดที่ทะลุมิติติดตัวมาด้วย

National Geographic

อ่านนิตยสาร National Geographic ภาษาไทยในรูปแบบอีบุ๊ค

ARACHNID มือสังหารสายพันธุ์แมงมุม

"อลิซ" เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่อาศัยอยู่กับลุง วันหนึ่งเธอต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่ลุงของเธอโดนฆ่าโดยนักฆ่าที่เรียกตัวเองว่า “แมงมุม” (คุโมะ) เธอหมดสติไปและเมื่อลืมตาขึ้นมาสิ่งที่เห็นคือตัวเองอยู่ในบ้านของ “แมงมุม” นั่น… แถมยังถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าโดย “แมงมุม” ที่ว่าอีกต่างหาก

KINDLE E-BOOK ลดสูงสุด 29%

สำหรับผู้ที่จริงจังกับการอ่าน Amazon Kindle เป็นเครื่องอ่านหนังสือที่ใช้งานง่าย ตัวอักษรคมชัด จอใหญ่ มีไฟในตัวเอง ทำให้อ่านได้แม้ในที่มืด น้ำหนักเบาพกพาสะดวก แบตเตอรี่อยู่ได้นาน ช่วยให้คุณพกพาห้องสมุดส่วนตัวไปอ่านได้ทุกที่และทุกเวลา

BEST ROMANTIC SET

The Host ร่าง...อุบัติรักข้ามดวงดาว, ลุ้นรักคุณพ่อกำมะลอ, บ่วงมนตรา เสน่หารัตติกาล A discovery of witches, ใต้เงารัตติกาล Shadow of Night

วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ซีรีส์บุปผารัญจวน : สุพรรณิการ์


สุพรรณิการ์

มณีจันท์


มนุษย์สร้างคำพูดขึ้นมา ขีดเขียนถ้อยคำลงบนแผ่นดินเหนียว ผืนหนัง ไม้ไผ่ และกระดองเต่า...

การค้นพบกระดาษและการพิมพ์ ทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่พกพาได้สะดวกและเผยแพร่ไปในวงกว้างอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ การพิมพ์ช่วยสถาปนาภาษาของแต่ละชาติให้มั่นคง ช่วยให้ภาษาของสามัญชนแพร่หลาย ทำให้คนอ่านออกเขียนได้เพิ่มสูงขึ้น และขยายวงกว้างออกไปนอกวงผู้นำและนักบวช

และแท้จริงแล้ว การพิมพ์หนังสือคือการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงรากถึงโคนทั้งความคิดและสังคม
สถาพรบุ๊คส์
รื่นรมณ์ทุกจังหวะรัก
สุพรรณิการ์
โดย มณีจันท์

คำนำสำนักพิมพ์
หลังจาก พุดพิชญา นวนิยายลำดับที่ 1 ในซีรีส์บุปผา-รัญจวนออกสู่สายตาผู้อ่าน ก็มีหลายคนเรียกร้องให้ อุณากรรณ ออกมาโลดแล่นบนแผงหนังสือเร็วๆ แต่เนื่องจากเมื่อเดือนสิงหาคม มณี-จันท์ส่ง ทนายเล่ห์รัก นวนิยายลำดับที่ 2 ของซีรี่ส์อริรักมาเฟีย : เดอะ แชโดว์ เอ็มเพอเรอร์ มาสู่อ้อมอกผุ้อ่าน ซึ่งเรื่องราวเข้มข้นและมีปริศนาให้ขบคิดมากมาย ผู้เขียนจึงเอาใจแฟนๆ นักอ่านด้วยการส่งเรื่องราวหวานๆ น่ารักของสุพรรณณิการ์ น้องเล็กตัวร้ายของบ้านสุกณต์ธี กับภูบดีมาเสิร์ฟแซงคิวเรื่องราวของอุณากรรณ พี่สาวคนรองก่อน

คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณให้มากความ ทุกท่านรู้ดีอยู่แล้วว่ามณีจันท์ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ขอเชิญเสพความหวานจาก สุพรรณิการ์ นับแต่บัดนี้ และโปรดรอติดตาม อุณากรรณ ไม่นานเกิน
สำนักพิมพ์ Sugar Beat
"หนังสือและการอ่านคือขุมพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์

เรื่องย่อ...

บทนำ : มูลเหตุแห่งความวุ่นวาย

กรุงเทพมหานคร สี่เดือนก่อน...

มีภาพหลุดฉากเลิฟซีนบนชายหาดพัทยาระหว่าง ชาญ่า พุด-พิชญา นักแสดงสาวที่รับบทนางร้ายกับ พันธกานต์ เวสลีย์ ดำรงกฤต-ภาส ประธานฯ แห่งดีพีกรุ๊ป เพราะมีคนนำภาพแอบถ่ายไปขายให้หนังสือพิมพ์ เอาลงเว็บไซต์ส่วนตัว และมีคนนำไปเผยแพร่ต่อลงเว็บไซต์-พันทิปอีกทีจนกลายเป็นประเด็นร้อน

เพราะชายหนุ่มในภาพคือสุดฮอตของแวดวงไฮโซเมืองไทยที่มีข่าวว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับนิศากร นางเอกเบอร์ต้นๆ ช่องเดียวกับพุดพิชญาผู้เป็นลูกสาวของนักธุรกิจใหญ่อย่างเสี่ยบัญชา ธนภัทรวณิช ทั้งยังเคยมีข่าวลือว่านางร้ายคนสวยเคยเป็นเด็กเสี่ย และมีข่าวเกาเหลากับนางเอกคู่กรณีที่วงในต่างรู้ว่าทั้งคู่ไม่ถูกกันจริง

ไม่กี่วันต่อมา...

สื่อทุกหัวทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ เล่นข่าวการเสียชีวิตของเสี่ยบัญชา ธนภัทรวณิช จากการถูกจ่อยิงอย่างอุกอาจบนมอเตอร์เวย์ ก่อนมือปืนที่สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าจะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซต์ใช้ทางแยกหลบหนีออกสู่ตัวจังหวัด จากนั้นทิ้งรถไว้ที่ลับตาเพื่อเปลี่ยนพาหนะและหนีต่อ ไม่ทิ้งรองรอยให้ตำรวจตามทัน กลายเป็นข่าวครึกโครมระดับประเทศซึ่งสื่อทุกประเภทและประชาชนทุกระดับให้ความสนใจ เพราะบัญชามีลูกสาวเป็นนางเอกยอดนิยมในขณะที่เขาเองก็มีปมขัดแย้งกับคู่แข่งทางธุรกิจและศัตรูทางการเมืองหลายคน

ประเด็นฮอตฉ่าไม่จบเพียงแค่นั้น หากทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อสื่อลงภาพพุดพิชญากำลังยืนประจันหน้ากับนิศากรและแขไขผู้เป็นมารดาหน้าศาลาวัดที่ตั้งศพ รายละเอียดไม่ได้ลงบทสนทนา แต่บรรยายไปในทางเดียวกันว่านางร้ายน่าจะถูกไล่ออกจากงานสวดพระอภิธรรมศพโดยไม่รู้สาเหตุ เพราะไม่ได้เข้าไปในศาลาเหมือนแขกคนอื่น

ยิ่งพันธกานต์เสนอตัวเป็นเจ้าภาพในงานสวดพระอภิธรรมศพ มีภาพร่วมเฟรมเคียงคู่ของเขากับนิศากร ยิ่งทำให้คนเข้าใจว่า 'คู่รัก' กลับมาคืนดีดังเดิมเพราะฝ่ายชายกลับมางอนง้อและรู้ทันเลห์ของนางร้าย

สื่อบางหัวใช้วิธีกอสซิปเล่นคำโดยไม่เอ่ยชื่อ ว่าด้วยเรื่อง 'มือที่สาม' ที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างนางเอกสาวกับนักธุรกิจหนุ่มจนเป็นเหตุให้รักร้าว แต่เมื่อบิดาของฝ่ายหญิงถูกฆาตรกรรม ทั้งคู่จึงปรับความเข้าใจกันได้ หากมิวายนางร้ายยังพยายามใช้มารยาทหลอกล่อให้ฝ่ายชายกลับไปหาตน เพราะต้องการหาผู้ดูแลใหม่และชุบตัวลบภาพเด็กเสี่ย

นางเอกกลายเป็นแม่พระซึ่งโดนแย่งทั้งบิดาและคู่รัก ส่วนนางร้ายร้ายจริงทั้งในและนอกจอ

พุดพิชญาเก็บตัวเงียบได้ ไม่กี่วันก็ประกาศแถลงข่าว เพราะอุณากรรณน้องสาวคนรองโทร. มาบอกปรัยงค์ มารดาของสามสาวเข้าโรงพยายามบาลกะทันหัน เนื่องจากถูกแฟนคลับของนิศากรโทร. มาเล่นงานและตามราวีถึงบ้าน

โต๊ะแถลงข่าวของนางร้ายที่ถูกกระแสสังคมโจมตีอย่างหนักถูกจัดขึ้นในอีกสามวันต่อมา ณ สถานีต้นสังกัดของดาราสาว มีวิกรานต์ ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนตัวผู้ใหญ่คนหนึ่งในช่อง พร้อมทนายความของพันธกานต์ชื่อโภคินมาร่วมโต๊ะแถลงข่าว โดยพกคลิปวิดีโอสั้นๆ จากเจ้านายของเขามาด้วย

นักข่าวทุกสำนักต่างพร้อมเพรียงกันเข้ามารับฟังการเปิดใจจนห้องจัดแถลงข่าวคับแคบไปถนัดตา

ใจความสำคัญคือ พันธกานต์แจงถึงความสัมพันธ์ของเขากับพุดพิชญาว่าทั้งคู่กำลังคบหาดูใจกัน

ดาราสาวอธิบายเพียงสั้นๆ ถึงผู้ตายซึ่งเป็นบิดาของนิศากรว่าบัญชาเป็นผู้มีพระคุณของครอบครัวเพราะเป็นเพื่อนกับบิดาที่เสียชีวิตไปแล้ว ไม่มีนัยฉันชู้สาวอย่างที่ข่าวลือที่เคยเล่นว่าเธอเป็นเด็กเสี่ย

บรรดาสื่อต่างเล่นข่าวที่ตั้งโต๊ะแถลง หลังถูกเตือนว่าจะถูกดำเนินคดีฐานหมิ่นประมาท หากยังนำเสนอข่าวบิดเบือน และไม่เป็นความจริง ทำให้นางเอกสาวประกาศหยุุดถ่ายละครและบินไปต่างประเทศไม่มีกำหนด


1 : เด็กเส้นของโบมอนต์ อินดัสตรีส์

กรุงเทพมานครสองเดือนก่อน

บรรยากาศยามค่ำ ณ เลานจ์วีไอพีของโรงแรมห้าดาวบนถนนสุขุมวิทในวันทำงานกลางเดือนมีคนไม่มาก เมื่อร่างโปร่งของสาวน้อยคนหนึ่งปรากฏตัวหน้าประตู พนักงานชายที่ยืนคอยรับแขกจึงมองด้วยสายตากังขา

ใบหน้าเรียวใสนั้นยังอ่อนเยาว์ อยู่ในขั้นสวยน่ารักแม้จะแทบไร้เครื่องสำอาง ชุดที่เธอสวมไม่ใช่เดรสหรืออาภรณ์เซ็กซี่เหมือนสาวๆ ส่วนใหญ่ที่มาเยือนที่นี่และมักมากับคู่ควงของตน แต่สาวน้อยผู้มาคนเดียวอยู่ในชุดสกินนียีนสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีขาวพอดีตัว สวมรองเท้าคัตชูส้นเตี้ยแบบใส่เล่นสีเดียวกับเสื้อ และสะพายกระเป๋าแบนด์เนมใบเล็กรุ่นยอดนิยมซึ่งมีสนนราคาสูงถึงหกหลัก

เมื่อประกอบกับผิวพรรณเนียนใสและออร่าสะดุดตามาแต่ไกล ทำให้เธอดูเหมือนทายาทไฮโซหรืออย่างน้อยก็ลูกหลานคนมีเงินแตกต่างจากบรรดาสาวสวยที่มักควงมากับอาเสี่ยคนละรุ่นเป็นส่วนใหญ่

"ฉันมาหาคุณพันธกานต์ เขามาถึงหรือยังค่ะ" เธอค้นเมม-เบอร์การ์ดใบหนึ่งออกมายื่น

บริกรชายมีท่าทางกระตือรือร้นทันตาเห็น เพราะบัตรแข็งที่เธอถือการันตีว่าเป็นแขกวีไอพีตัวจริงและมีจำนวนไม่มาก

"มาถึงเมื่อครู่นี้เองครับ" ผู้ให้บริการบอก รับบัตรแล้วรับผายมือให้เธอเข้าไปด้านในก่อนเดินนำทาง

การตกแต่งในเลานจ์แห่งนี้เน้นความเรียบง่ายแต่ดูหรูหราในสไตล์ของสุภาพบุรุษซึ่งเป็ยสมาชิกส่วนใหญ่

ชุดโซฟาที่เธอถูกบรกรพาเข้าปนั่งถูกจัดเ็นสัดส่วนอยู่ติดกระจกมองเห็นวิวแสงสีของกรุงเทพมหานครตอนหัวค่ำ

ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่หน้าตาดีที่นั่งเอกเขนกรออยู่ไม่ได้ลุกขึ้นเมื่อเธอไปถึงเขาแค่ขยับนั่งตัวตรงแล้วยกมือรับไหว้

"เฮียเวสรอนานไหมค่ะ" สาวน้อยยิ้มกว้างสดใสสมชื่อ

"ไม่นาน เฮียเพิ่งมาถึงเมื่อครู่นี้เอง น้องไหมหิวหรือเปล่า"

"ไหมเพิ่งกินลูกชิ้นรองท้องก่อนขึ้นบีทีเอส เดี๋ยวกลับไปกินที่บ้านก็ได้ค่ะ" เธอบอกเช่นนั้นเพราะรู้ว่าเขาเป็นนักธุรกิจใหญ่ที่ไม่มีเวลามากและกำลังจะมีนัดต่อกับดาราสาวสวยที่เป็นแฟนสาวของตน

"งั้นเฮียสั่งของว่างมาให้เราก่อน  คุยเสร็จแล้วน้องไหมลงไปต่อที่ห้องอาหารของโรงแรมได้เลย ที่นี่เขาขึ้นชื่อ" เขาบอกพลางส่งสญญาณให้บริกรที่คอยจับตาดูแขกทุกโต๊ะเข้ามาขอเมนู โดยสาวน้อยร้องขอไอศกรีมทับทิมกรอบกับชาเลมอน บนโต๊ะมีแก้วกาแฟร้อนที่เกือบหมดของชายหนุ่มวางอยู่ก่อน กับแลปทอปกำลังเปิดใช้งานซึ่งบอกว่าเขาไม่ปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์

ระหว่างรอ ถุงกระดาษใบหนึ่งที่ชายหนุ่มนำมาด้วยถูกวางบนโต๊ะ แค่ดอียงคอมองตาสีดำระยับก็เป็นมันวาว

"ของไหมเหรอ"

"เฮียสั่งเข้ามาให้ ลองดูสิว่าเราชอบหรือเปล่า"

สาวน้อยรับถุงมาเปิดดูตามคำเชื้อเชิญอย่างกระตือรือร้นโดยไม่สนใจรักษามาด เพราะหนุ่มหล่อรายนี้คือคนรักของพี่สาวคนโตซึ่งเคยพูดคุยทั้งทางโทรศัพท์ทางไลน์ และนัดเจอกันเช่นนี้มาหลายครั้งเมื่อเขาเอ่ยขอความช่วยเหลือบางอย่างและเธอยอมรับปากร่วมมือด้วยเต็มที่ หลังจากขอคำมั่นสัญญาแบบลูกผู้ชายจากเขาเป็นมั่นเหมาะจนพอใจ

ตั้งแต่นั้นมา สถานะของทั้งคู่ก็ดูเหมือนว่าทีพี่เขยกับว่าที่น้อยภรรยาโดยที่ฝ่ายหลังได้ค่าหัวคิวจากการช่วยงานแต่ละครั้งเหมือนวันนี้

ของในถุงเป็นกล่องสีขาวเรียบหรู  ยังไม่ต้องเปิดดูก็รู้เป็นสมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุดี่เพิ่งวางในท้องตลาดไม่นาน

"โอ๊ย รู้ได้ยังไงว่ามือถือของไหมจะเจ๊ง" สาวน้อยบอกพลางเปิดกล่องเพื่อยลโฉมสมบัติชิ้นใหม่อย่างใจร้อน ห่อปากเมื่อเห็นว่าเป็นรุ่นที่มีหน่วยความจำเยอะที่สุด เคสเป็นสีชอกกิงพิงก์มันวาวลายไม้ด้านลังยังสลักชื่อภาษาอังกฤษของเธอไว้อย่างสวยงามเป็นลายเซ็นไม่เหมือนใคร ตาใสจึงเปล่งประกายวิบวับเหมือนดาวประกายพรึกเมื่อเงยหน้าขึ้น "สวยที่สุดอ่ะ เฮียใจดีที่สุดในโลก"

"เราชอบ ใช้ประโยชน์ได้ก็ดีแล้ว" ชายหนุ่มบอกอย่างเอ็นดู

"ไหมชอบมาก จะรักษาของอย่างดีค่ะ" สุพรรณิการ์ยกมือไหว้ชดช้อยแล้วเก็บของเพราะไอศกรีมกับเครื่องดื่มถูกยกมาเสิร์ฟพอดีรอจนกว่าบริกรถอยออกไปจึงเปิดกระเป๋าใบเล็กซึ่งเป็นอภินันทนาการชิ้นก่อนหน้าเพื่อหยิบกระดาษปึกหนึ่งออกมา

"คิวงานล่าสุดไหมส่งไฟล์เข้าอีเมล์ให้เฮียเวสไปแล้ว ส่วนนี่เป็นรายการที่ไหมทำเองเพราะกลัวลืม"

ชายหนุ่มรับปึกกระดาษที่เป็นตัวพิมพ์และพรินต์ออกมาเรียบร้อยเปิดอ่านดูคร่าวๆ "เราคุยกับใครมาบ้าง"

"อาพตกับพี่ว่านเป็นหลักค่ะ ไหมทำอ้างอิงไว้ตรงด้านล่าง"

ใบหน้าคมสันปรากฏรอยยิ้มอย่างพอใจเมื่อสังเกตเห็น "ไม่เปลี่ยนในมาทำงานกับเฮียแน่เรอะ"

"ไม่เอาอ้ะ เดี๋ยวโดนกล่าวหาว่าใช้เส้น"

พันธกานต์ส่ายหัวอย่างอารมณ์ดี "จริงสิ เราสอบเสร็จรึยัง"

"อีกไม่ถึงเดือนก็เสร็จหมดทุกตัวค่ะ..." บอกกำหนดคร่าวๆ ให้เขาฟังพร้อมรายงาน "บริษัทเรียกไหมเข้าไปสัมภาษณ์เพิ่มเติมวันที่สิบเดือนหน้า ถ้าไม่ติดอะไรก็ให้เริ่มงานได้เลย"

"ไม่พักก่อนรึไง เดี๋ยวเฮียจะซื้อทริปให้"

ตาสีดำเป็นประกายวาวขึ้นเพียงแวบเดียว ก่อนหน้ามุ่ยลงอย่างแสนเสียดาย "เดี๋ยวพี่ป่านกับที่บ้านจะสงสัย อีกอย่างทำงานสักปีค่อยเก็บเงินไปเที่ยวดีกว่า เดี๋ยวไหมก็มีเงินเดือนของตัวเองแล้ว"

ตามใจ กินของว่างเถอะ จะละลายหมดแล้ว..."

สาวน้อยผงกหัว ตักไอศกรีมเข้าปากอย่างอารมณ์ดีระหว่างคุยกับว่าที่พี่เขยจ้อยๆ ไม่สใจว่าใครจะเข้าจะออกในเลานจ์ ต่อเมื่อกินเสร็จจึงบอกลาพันธกานต์ รับบัตรสมาชิกคืนใส่กระเป๋าเพื่อลงไปหามื้อค่ำกินต่อในห้องอาหารด้านล่างไม่ให้เสียเที่ยว เพราะโรงแรมแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องอาหารบุฟเฟต์นานาชาติทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น

หลังแยกจากพันธกานต์ และกำลังรอลิฟต์เพื่อลงไปชั้นจีซึ่งเป็นชั้นของห้องอาหาร ก็มีเงาของใครบางคนมายืนด้านหลังระหว่างที่เธอเงยหน้ามองแผนผังของโรงแรมบนผนัง ทว่าสุพรรณิการ์ไม่สนใจกระทั่งประตูลิฟต์เปิดออก

เธอก้าวเข้าไปก่อนและหันกลับมา  จึงประจันหน้ากับแขกอีกรายที่ใช้ลิฟต์ตัวเดียวกันและเบิกตาโต

ชายหนุ่มร่างสูงก้าวตามเข้าในห้องโดยสารแคบๆ และจ้องตอบสาวน้อยด้วยดวงตาคมปลาบสีน้ำตาลทอง   อ่านตัวอย่างอีบุ๊ค (ebook) ซีรีส์บุปผารัญจวน : สุพรรณิการ์ ฟรี







วันจันทร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

65 กลวิธีพัฒนาสมอง สู่ขีดสูงสุดของศักยภาพ

 

ฝึกให้สมองสองซีกทำงานด้วยกันอย่างสมดุล

คำนำสำนักพิมพ์ 

65 กลวิธีพัฒนาสมองสู่ขีดสูงสุดของศักยภาพ จัดพิมพ์ขึ้นใหม่จากชื่อเดิม จินตนาการสู่การเรียนรู้ เคยเป็นหนังสือในโครงการ "พัฒนาครูในการสอนเด็กปฐมวัยให้มีศักยภาพการเรียนรู้ถึงขีดสูงสุด" เพื่อเผยแพร่ให้ครู ผู้ปกครองและผู้สนใจทั่วไป ได้เข้าใจถึงวิธีการเรียนรู้ของเด็กที่ถนัดใช้สมองซีกซ้ายและซีกขวา และพัฒนาเขาให้มีศักยภาพสูงสุดของความสามารถ เนื้อหายังคงมีความทันสมัย และใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาเด็กปฐมวัยได้เป็นอย่างดีในปัจจุบัน

นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสอันดียิ่งที่อาจารย์หม่อมดุษฎี บรอพัตร ณ อยุธยา ซึ่งเป็นผู้ที่คลุกคลีและมีความตั้งใจแน่วแน่ที่จะพัฒนาการศึกษาของคนไทยให้มีคุณภาพมาเป็นเวลามาเป็นเวลามากกว่า 60 ปีแล้ว ท่านได้สละเวลาแปลหนังสือชุดนี้ เพื่อยังประโยชน์ให้แก่เด็กไทยและวงการศึกษาของไทย

นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์


คำปรารภจากผู้แปล 

คำนำหนังสือพิมพ์ ครั้งที่ 3
การเขียนคำนำใหม่ให้กับหนังสือที่พิมพ์เกือบ 20 ปี นั้นเขียนได้สองวิธีคือต่อเติมแก้ไขดัดแปลงข้อความตามต้องการหรือเขียนใหม่เป็นถ้อยแถลงความคิดอ่านใหม่ถอดด้าม

ข้าพเจ้าเลือกวิธีหลัง หลังจากมีชีวิตจนถึงวัย 90 ยาวนานพอที่จะมีความคิดใหม่ มีประสบการณืใหม่เกี่ยวกับเนื้อหาสาระของหนังสือสองเล่มนี้ การแก้ของเก่าต้องใช้เวลาอ่าน ขณะนี้เวลาที่เหลือของข้าพเจ้ามีไม่มากนัก ทุกนาทีมีค่า จะเสียเวลาค้นหาของเก่าที่เคี้ยวและคายแล้วว่ามีอะไรอยู่บ้างทำไมกัน

ข้าพเจ้าข้าพเจ้าขอให้คำนำที่เขียนขึ้นครั้งนี้เป็นคำนำของหนังสือสองเล่ม คือ Free Flight (จากศักยภาพสู่อิสรภาพ) Unicorns Are Real (จินตนาการสู่การเรียนรู้) ซึ่งเป็นหนังสือที่ข้าพเจ้าเรียกว่าคู่แฝด เขียนโดยบุคคลคนเดียวกัน ผู้แปลก็คนเดียวกันคือตัวข้าพเจ้าเอง

หลังจากเวลาที่ข้าพเจ้าแปลแล้วชีวิตของข้าพเจ้าผกผันและยุ่งเหยิงเรื่องงานจนไม่มีเวลาที่จะนั่งคิดและไต่ถามตนเองว่าเป็นผู้ที่ถนัดใช้สมองซักขวาหรือไร ทั้งๆ ที่รู้วิธีทดสอบจากอาจารย์บาร์บาร่า ผู้เขียน ว่าใครจะทดสอบว่าผู้ใดใช้สมองข้างใดก็ให้ใครคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ตัวโยนสิ่งของเล็กๆ ให้ผู้นั้น (โดยบอกให้รับมือเดียว) รับของในเวลาที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เป็นการรับของโดยอัตโนมัติ ถ้าผู้นั้นใช้มือขวารับก็แสดงว่าเขาผู้นั้นมีความถนัดใช้สมองซีกซ้าย ถ้าใช้มือซ้ายรับก็แสดงว่าเขาใช้สมองซีกขวามากกว่าซีกซ้าย การเคลื่อนไหว การกระทำของคนเป็นการกระทำที่ตรงข้ามกับการทำงานของซีกสมอง ข้าพเจ้าให้ข้อมูลแก่ลูกศิษย์ลูกหาและผู้อยู่ใกล้ชิดเช่นนี้เสมอ แต่ด้วยเหตุผลกลไดไม่ทราบที่ไม่เคยคิดจะทดลองกับตัวเอง แต่มีเหตุการณ์ครั้งหนึ่งเกิดขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปีมาแล้ว ข้าพเจ้าเดินลงบันไดมาก็สังเกตุตัวเองว่าเราไม่ได้เดินสลับขา ใช้ขาข้างซ้ายเดินตลอดเวลา ครั้งสั่งตัวเองให้เอาขาข้างขวาลงก็รู้สึกว่าทำลำบาก จึงเกิดความเข้าใจในบัดดลว่าตัวข้าพเจ้าเป็นคนที่ถนัดใช้สมองซีกขวาเสียละกระมัง แต่ก็ยังไม่แน่ใจ จนกระทั่งวันหนึ่งได้คาถามาบทหนึ่ง ซึ่งมีความยาวไม่น้อยเลย ใช้ความเพียรพักใหญ่ก็ว่าได้หมดเป็นธรรมดาที่ข้อความอันใดที่ไม่รู้ไม่เข้าใจจะท่องจำได้ยาก แต่เหตุไฉนจึงทำได้ ทั้งที่อายุก็มากแล้ววิเคราะห์ดูก็พบว่ายามใดที่จำได้อย่างขลุกขลัก ภาพของหนังสือก็ปรากฎขึ้นตรงหน้า ไม่ว่าเป็นตัวหนังสือหรือตำแหน่งตัวอักษร จึงบอกตัวเองว่าน่าจะเปฯคนใช้สมองซีกขวาอย่างแน่แท้

ข้าพเจ้าเรียนรู้จากปากอาจารย์บาร์บาร่า ผู้เขียนอีกนั่นแหล่ะว่ามนุษย์มีกลไกในสมองที่สำคัญ ทำหน้าที่ป้อนข้อมูลที่เป็นคำตอบในลักษณะฟ้าแลบ ซึ่งนักการศึกษาเราเรียกว่า intuition เป้นผลการทำงานของสมองซีกขวา (แถวหน้าผาก) เป็นกลไกที่ทำงานโดยอัตโนมัติ กลไกที่ว่านี้ไม่เป็นรูปเป็นร่างให้เห็นหรือจับต้องได้เหมือนร่างกายส่วนอื่นๆ เป็นความคิดที่ผุดขึ้นในบัดดล (บางคนอาจจะได้ยินเป็นเสียง บางคนอาจจะเห็นเป็นภาพ) ข้าพเจ้าสังเกตุว่าเด็กๆ เกิดมาด้วยความสามารถดังกล่าว แต่มันค่อยๆ หายไปเพราะวิธีการอบรมบ่มนิสัยของผู้ใหญ่ ข้าพเจ้าจำได้ว่ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งหนึ่งกับหลานของข้าพเจ้า ขณะนั้นเขายังเป็นเด็กแบเบาะอยู่เลย ในวันนั้นพ่อแม่ไมได้อยู่ด้วย มีข้าพเจ้านั่งดูแลอยู่ข้างๆ บัดดลเขาร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ไม่มีคำพูดหรือวิธีปลอบอันใดที่จะทำให้หยุดได้ มิช่ามินานพ่อแม่เด็กก็กลับมา เมื่อเห็นอาการลูก แมงของเด็กก็ตกใจโทรศัพท์ชนิดที่เรียกว่า hot line ถึงแพทย์ไม่นานวางหูแล้วก็บอกข้าพเจ้าว่าหมอแนะนำให้เด็กอาบน้ำอุ่นแล้วเช็ดตัวให้แห้ง ไม่ช้าจะหายเอง ความปรากฎในภายหลังว่าในวันนั้น (เวลาเดียวกันที่เด็กร้องไห้) พ่อแม่ทะเลาะกันอย่างรุนแรงแม้ทั้งสองจะอยู่ห่างไกลจากเด็กไม่ทราบว่ากี่ร้อยกี่พันไมล์เด็กก็สามารถรับรู้ได้ ผู้อยู่ใกล้ตัวกลับไม่ทราบสาเหตุเลย

อีกครั้งหนึ่งมีเหตุการณ์น่าพิศวงสงกาอย่างยิ่ง เวลานั้นข้าพเจ้าทำงานชั่วคราวอยู่ ณ ศูนย์การค้าอันลือชื่อแห่งหนึ่ง วันที่เกิดเหตุนั้นข้าพเจ้าถึงที่ทำงานเร็วกว่าปกติ ข้พเจ้าพบว่ามีคนแปลกหน้านั่งในห้องทำงานทำงานสามคน คนหนึ่งผิวดำหน้าตาถมึงทึง ความคิดของข้าพเจ้าที่ผุดขึ้นในขณะนั้นคือท่านผู้นี้น่ากลัว ไม่น่าไว้วางใจ จึงเมื่อได้พบเจ้าของสำนักงานในเวลาต่อมา ข้าพเจ้าก็กระซิบท่านผู้นี้ว่า "ใครก็ไม่รู้มาหาคุณ ท่าทางไม่น่าไว้วางใจ ระวังตัวให้ดี เขาอาจจะทำให้คุณหมดตัวได้" ต่อมาไม่นานความก็ปรากฏ ท่านผู้นั้นซึ่งเป็นสหายที่รักของข้าพเจ้าคนหนึ่ง ก็ถูกโกงเกือบหมดตัว เรื่องนี้เกิดขึ้นทั้งๆ ที่ข้าพเจ้าและสหายของข้าพเจ้า ไม่รู้จักคนคนนี้มาก่อนเลย

เราเป็นครู น่าจะรู้วิธีสังเกตว่าเด็กคนใดถนัดใช้สมองซีกไหนข้าพเจ้ามีวิธีสังเกตง่ายๆ เด็กประเภทนี้มักจะเป็นเด็กที่นั่งเงียบอยู่หลังห้อง ดวงตามักจะมองออกไปข้างนอก เวลาทำงานเสร็จแล้วมักเดินแกล้งเย้าแหย่เพื่อน โดยการจับกระพุ้งแก้มบ้าง ใช้นิ้วมือจี้สีข้างบ้างมักขออนุญาตเ้าห้องน้ำบ่อยครั้ง ลุกขึ้นเหลาดินสอก็บ่อยทั้งที่ดินสออยู่ในสภาพที่เขียนได้ ข้าพเจ้ามีนิสัยชอบจดบันทึกไม่ว่าอะไร โดยเฉพาะเวลาการบรรยาย แต่ไม่ค่อยได้อ่านทบทวน แปลได้ว่ากรที่จดบันทึกนั้นเป็นการเคลื่อนไหวที่กระตุ้นทำให้สมองเคลื่อนไหว คือทำให้สมองทำงานเท่านั้น พฤติกรรมดังกล่าวเป็นพฤติกรรมของคนที่ถนัดใช้สมองด้านขวา

อาจารย์บาร์บาบาร่าบอก้าพเจ้าอีกว่า ตอนกลางวันมนุษย์จะใช้สมองข้างซ้ายมากกว่าข้างขวาจะทำงานได้ติดต่อกันได้ประมาณสองชั่่วโมง หลังจากนั้นความเปลี่ยนแปลงเป็นสัญลักษณืซึ่งบอกให้ตัวว่าสมองข้างซ้ายทำงานเหนื่อยแล้ว สมอง้างขวาขอเวลาทำงานบ้าง ก้เมื่อมีเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นเราเป็นครูน่าจะช่วยเด็กได้ไม่อยาก เช่นออกคำสั่งให้เคลื่อนไหวอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทำอะไรที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เช่นให้ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ ขยับแข้งขยับขา หรือเดินย่องรอบห้องในเวลากลางคืนในทางตรงกัันข้ามกันสมองซีกขวาก็จะทำงานมากกว่าซีกซ้าย หลังจากที่เราหลับสนิทเป็นเวลาอย่างน้อย 4-5 ชั่วโมง สมองได้พักผ่อนแล้วอย่างพอควรความคิดดีๆ ก็จะแว็บหรือผุดขึ้นในสมอง ปัญหาอันใดที่ขัดข้องมาตลอดวัน (หรืเป็นเวลานาน) ดูจะหาคำตอบได้ในเวลานั้น ถ้าท่านมีกระดาษอยู่ข้างเตียง ท่านต้องจดความคิดที่ผุดขึ้นมาในสมองขณะนั้นทันที มิเช่นนั้นความคิดหรือคำพูดเหล่านั้นจะไม่กลับมาอีกเลย เวลากลางวันก็เช่นเดียวกัน ขณะทำการใดๆ ที่จะช่วยคลายความเครียดความเคร่งตึงของสมอง เ่น เวลาที่นั่งอยู่ในอ่างน้ำร้อนหรืออยู่ในที่เงียบสงัดเป็นเวลานาน คำตอบปัญหาต่างๆ หรือความคิดดีๆ จะผุดขึ้นมา ทุกคนรู้เรื่องราวของอาคิมีดิส (Archimedes) ท่านผู้เป็นเจ้าของทฤษฎีคณิตศาสตร์ของกรีซอันลือชื่อ ผุ็คิดค้นสมการหาปริมาตรของรูปทรงที่เกิดจากพื้นผิวแลได้จากการหมุน ท่านหาคตอบได้ (หลังจากขบคิดค้นหามาเปผ้นเวลานาน) ใขณะนอนทอดตัวอยู่ในอ่างน้ำ พลันคิดได้ก็วิ่งออกมานอกบ้านในสภพร่างกายเปล่าเปลือยและร้องว่า eureka (ยูเรก้า แปลว่า ค้นพบแล้ว) เมื่อคลื่นสมองอยู่ในระดับ alpha (คือเมื่อคลายเครียด) เช่น เวลานั่งสมาธิให้จิตสงบ ความคิดเป็นระเบียบไม่สับสน คำตอบที่ต้องการก็จะผุดขึ้นมา

เราหัดเด็กให้นั่งนิ่งๆ ห้จิตสงบได้ตั้งแต่ปฐมวัยไม่ใช่ตอนการนั่งทำสมาธิหรือเดินจงกรม แต่ให้เริ่มึกหัดให้รู้ตัวรู้ตนด้วยการหัดให้เด็กอยู่นิ่งก่อน (immobility) แล้วก็ใช้เพลงหรืออาณัติสัญญาณอื่นๆ เช่น ใช้กระดิ่งหรือเพลงที่เลือกเปิดซ้ำกันทุกวัน ัดหมายให้เด็กหยุดอยู่กับที่ไม่วา ณ ที่ใด (ไม่จำเป็นต้องหลับตา) เป็นการฝึกให้เด็กพักผ่อนร่างกายและจิตใจให้โอกาสสมองข้างซ้ายหยุดทำงานพัผ่อนบ้าง และเป็นการฝึกให้สมองสองซีกทำงานด้วยกันได้อย่ามีสมดุลในแต่ละวัน

ที่เล่ามาเป็นประสบการณ์เล็กๆ น้อยๆ ที่ผ่านมา ทำให้คิดว่าน่าจะมีการรวมประสบการณ์ทำนองนี้ของทุกคนไว้พิมพ์ไว้ได้อ่านทั่งึงกัน

ข้าพเจ้าได้พบปะพูดคุกับผู้เขียนสามครั้ง เธอมาประเทศไทยในฐานะวิทยากรัเชิญขอพวกเรา ระหว่างการสนทนาเราก็มีเรื่องแลกเปลี่ยนพูดคุยกันมากมาย บาร์บาร่าเป้นคนหนึ่งที่มีลักษณะนิสันและชีวิตที่แปลก ค่อนข้างพิสดาร ที่ชัดเจนและแน่นอนก็คือเธอเป็นคนมี intuition มีอัธยาศัยนิ่มนวลแบบคนตะวันออก เมื่อผสมผสานกับความฉลาดปราดเปรียวแบบฝรั่งตะวันตกก็ทำให้เป็นคนน่าคบหาเป็นคนที่น่าทึ่ง เธอเขียนหนังสือทำนองประวัติส่วนตัวและเป็นคู่มือครูด้วยเอาประสบการณ์จริงมาเล่า เมื่อเป็เด็กเธอก็ต้องหาวิธีช่วยตัวเองหาวิธรเรียนเองเพราะเรียนรู้อย่างอื่นมิได้ เมื่อเป็นครูก็ต้องค้นหาวิธีสอนใหม่เพราะใช้วิธีแบบเดิมๆ มิได้ พวกที่เป็นอย่างเธอผู้นี้มีจำนวนไม่น้อยไม่โง่กว่า (อาจฉลาดกว่า) แต่ที่แน่นอนมีวิธีเรียนรู้ซึ่งไม่เหมือนใครเท่านั้นเอง

จากพี่น้องซึ่งถนัดใช้สมองซีกขวาคนหนึ่ง
หม่อมดุษฎีบริพัตร ณ อยุธยา
บ้านชัยพฤกษ์ 4/1 ถนนพุทธมณฑลสาย 2 ซอย 7 
แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร 10160
วันที่ 1 เดือนกันยายน พ.ศ. 2557


สารบัญ

บทที่ 1 : ความถนัดของซีกสมอง (hemidpheric specialization)
บทที่ 2 : รูปแบบและวิธีคัดแยกเบื้องต้นเพื่อประเมินความถนััด (modality and dominance screening)
บทที่ 3 : กลยุทธการเรียนรู้ (learning strategies)
  • การเดินที่ใช้แขนขาเคลื่อนไหวสลับข้างกัน (cross-lateral march)
  • กิจกรรมส่งประสาทสัมผัสทางแฮปติก (haptic activities)
  • การรู้สึกด้วยการแตะสัมผัส (sensing through touch)
  • วิธีอ่านทั้งคำ (whole-word approach)
  • การออกเสียงสะกดตัวอักษร (phonics)
  • การลำดับเหตุการณ์ (sequencing events)
  • การฝึกเรียงลำดับด้วยการใช้การเคลื่อนไหวลำตัว (sequencing using body movement)
  • โจทย์เลขที่เป็นเรื่องราว (story problems)
  • การสอนพยางค์ (teaching syllables)
  • สิ่งที่ตรงข้ามกัน (opposites)
  • ร้างกายที่จัดวางเป็นรูปนาฬิกา (the clock body)
  • วิธีสอนครึ่งชั่วโมง (teaching the half-hours)
  • การอ่านคร่าว ๆ ในลักษณะปูพื้น (grounding)
  • การบวกเลขอย่างง่าย (simple addition)
  • การบวกเลขหลายจำนวนในแนวตั้ง (column addition)
  • การทดเลข (carrying)
  • การลบเลข (subtraction)
  • สูตรคูณแม่เก้า (nines tables)
  • การเล่นรูปตัดต่อ (puzzles)
  • การปรับและจัดระบบความรู้สึกของตนเอง (organizing feelings)
  • การจัดระเบียบที่บ้านและที่โรงเรียน (home and school organization)
  • การเขียนตัวหนังสือในแนวตั้ง (vertical writing)
  • ให้ทำงานโดยวิธีสุ่มหรือตามบุญตามกรรม (working at random)
  • การจัดระบบวิธีทำเลข (organizing processes)
  • การตอบข้อสอบ (test taking)
  • การจัดระบบโจทย์เลข (organizing math problems)
  • ให้ยึดติดอยู่กับสี แล้วอะไรๆ ก็จะดีขึ้น (color grounding)
  • การใช้สีเขียนตัวหนังสือ (color writing)
  • การเขียนตัวอักษรเป็นสีรุ้ง (rainbow letters)
  • การสอนทิศทาง (teaching directionality)
  • ข้าวสารย้อมสี (dyed rice)
  • คำที่ใช้เป็นรูปแบบ (word patterns)
  • การขอยืม (borrowing)
  • หลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อย (ones-tens-hundreds)
  • ต้นแบบหรือตัวอย่าง (visual models)
  • รูปทรงสัณฐานอันเป็นกรอบนอก (configuration)
  • คำวิบาก (obstacle words)
  • รูปวาดเส้นประอันสร้างสรรค์ (creative dittos)
  • กระดานหน้าห้องเรียน (chalk board)
  • กระดานบนตัก (lap boards)
  • เรียนตัวอักษรด้วยการคลาน (crawling letters)
  • .ใช้ไม้จิ้มฟันจิ้มฉันไว้ (toothpick me)
  • การอ่านโดยใช้ปัญญาญาณหรือความสามารถพิเศษ (intuitive reading)
  • นายแจ็กส์ผลุบโผล่ (Jumping Jacks)
  • สอนเรื่องสี (teaching color)
  • ห่อหุ้มคลุมตัวด้วยสีสัน (rolling in color)
  • เมื่อได้รสได้ลิ้มชิมสีสัน (eating color)
  • ไฟฉายใช้เขียนก็ได้ ใช้อ่านก็ดี (flashlight tracking)
  • นิตยสารช่วยสอน (magazine tracking)
  • การเขียนอักษรตัวเต็ม (cursive writing)
  • การเขียนอักษรตัวเขียน (cursive writing)
  • การเขียนในอากาศ (air writing)
  • การเขียนที่อาศัยการแตะสัมผัส (tactile writing)
  • การวาดรูปด้วยการละเลงสี (finger painting words)
  • การทาสีด้วยน้ำ (water painting)
  • การใช้แปรงสีฟัน (tooth brushing)
  • คำและรูปทรง (words and shapes)
  • ตัวเลขและรูปทรง (number and shapes)
  • เสียงและรูปทรง (sounds and shapes)
  • โดมิโนและลูกเต๋า (dominoes and dice)
  • กริยาช่วยต่างๆ (helping verbs)
  • ดนตรี (music)
  • การเคลื่อนไหวและดนตรี (movement and music)
  • ร้องเพลงสะกดตัวอักษร (singing spelling words)
บทที่ 4 ก้าวไปข้างหน้าอีกก้าวหนึ่ง (one step beyond)

อารัมภบท

เมื่อข้าพเจ้าเป็นเด็กมีปัญหาเรียนหนังสือไม่ได้ ทั้งได้ชื่อว่าเป็นเด็กช้า โง่ทึบ ในระหว่างเข้าโรงเรียน 4 ปีแรก ข้าพเจ้าอ่านหนังสือไม่ออก จนกระทั่งอายุ 12 ขวบ แม้ตราบเท่าทุกวันนี้ ข้าพเจ้าก็ยังมีความสับสนทางภาษาขั้นรุนแรงอยู่

เมื่อไม่นานมานี้เอง ข้าพเจ้าเดินเข้าไปในร้านแห่งหนึ่งถามหาแผนก "ยานกจักร (จักรยาน)" เคราะห์ดีที่พนักงานเข้าใจการใช้พยางค์สลับกับกันของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงได้ซื้อรถ "ยานกจักร" สีแดงสามเกียร์ได้สมดั่งใจปอง

หากว่าข้าพเจ้าเขียนอะไรกลับกันให้ท่านอ่านก็โปรดอย่าได้สงสัยหรือกังวลใจอะไรเลย ข้าพเจ้าก็คงเขียนออกมาเช่นนั้นจริงๆ และถ้าหากข้อเขียนบางตอนอ่านดูประหลาดๆ พิกล ๆ คำที่ใช้ดูไม่กลมกลืนผสมผสานกันเท่าใดนัก ก็จงอย่าได้พิศวงสงกาอีกเช่นกัน บางทีคำผิด ๆ เพี้ยน ๆ ทั้งหลายของข้าพเจ้านึกสนุกแอบเล็ดลอดออกมาเข้าแถวเบียดรวมกับคำอื่นๆ ที่ข้าพเจ้าเขียนก็เท่านั้นแหล่ะค่ะ

ข้าพเจ้ายังมองเห็นอะไรซ้อนกันเป็นสองและกลับทางกันอยู่บ่อยๆ แม้ว่าปกติข้าพเจ้าไม่รู้ตัวเลยว่าตนมีพฤติกรรมเช่นว่านี้ ข้าพเจ้าก็ยังสะกดตัวไม่สู้ได้อยู่นั่นเอง ดังนั้น ท่านจงกรุณาอย่าได้นำพาต่อตัวสะกดผิด ๆ แผลง ๆ ของข้าพเจ้าเลย เว้นเสียแต่ว่า บรรณาธิการของข้าพเจ้าได้กรุณาจัดการแก้ไขให้เรียบร้อยแล้ว

นอกจากปัญหาที่ได้พรรณนามา ข้าพเจ้าก็นับว่ามีความสามารถพอตัว เป็นคนที่สามารถจริงๆ นะคะ ไม่ได้พูดเล่นเลยแม้แต่นิดเดียว

ข้าพเจ้าเป็นคนโชคดี เมื่อเรียนอยู่ในชั้นประถมปีที่ 5 คุณครูผู้วิเศษท่านหนึ่งเป็นผู้ค้นพบและรังสรรค์ข้าพเจ้า ท่านมีความเชื่อมั่นในตัวข้าพเจ้าท่านเพียรพยายามอุ้มชูช่วยเหลือจนข้าพเจ้ามีความศรัทธาและเชื่อมั่นในตัวเอง ท่านได้ย้ำข้าพเจ้าซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า วิธีคิดของข้าพเจ้านั้นไม่เพียงแต่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนแล้ว ยังมีลักษณะพิเศษเป็นอเนกประการ! แล้ท่านก็สอนให้ข้าพเจ้าอ่านออกจนได้ ท่านไม่ได้ยื่นหนังสืออ่านแบบมูลบทให้ข้าะเจ้าอ่าน หรือให้ข้าพเจ้าเข้ากลุ่มเรียนกับคนอื่น แต่ท่านอนุญาตให้ข้าพเจ้าเข้ากลุ่มเรียนกับคนอื่น แต่ท่านอนุญาติให้ข้าพเจ้าเลือกหนังสืออ่านเอง ข้าพเจ้าเลือกนวนิยายของกริมม์ เป็นหนังสือที่ยากแสนเข็ญ แต่คุณครูท่านไม่เคยทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย เราท่องจำและเรียนรู้ทีละคำ จนกระทั่งข้าพเจ้าอ่านได้ทั้งเล่ม นอกจากนั้น คุณครูท่านนี้ยังให้ข้าพเจ้าภาพสถานที่แห่งเดียวในโลกที่ข้าพเจ้าอยากไปเที่ยวมากที่สุด ข้าพเจ้ายังจดจำสมุดเล่มนั้นได้ดี ข้าพเจ้าเลือกรัฐวอชิงตันด้วยมีจิตพิสมัยภูเขาสูงตระหง่านทะมอเมื่อมและหุบเขาเขียวชอุ่มพุ่มไสวของที่นั่น ข้าพเจ้าอ่านคำพูดทุกคำที่เป็นข้อความอธิบายใต้รูปภาพภายในสมุดภาพเล่มนั้น จนบัดนี้ข้าพเจ้ายังคงระลึกถึงมันด้วยความหฤหรรษ์มิเหือดหาย

ต่อมาเมื่อข้าพเจ้าขึ้นไปเรียนชั้นมัธยม คุณครูท่านที่สอนภาษาอังกฤษให้ข้าพเจ้าเป็นอีกท่านหนึ่งที่ช่วยให้ข้าพเจ้าได้ค้นพบและสร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์ของข้าพเจ้า รวมทั้งการค้นพบและรู้จักตนเองด้วย ท่านสนับสนุนให้ข้าพเจ้าเขียน ยอมรับงานกวี และเรื่องที่แต่งไปโดยไม่พะวงกวดขันตัวสะกดของข้าพเจ้าเลย ไม่แม้แต่จะหัวเราะความเปิ่นความครึของข้าพเจ้าเมื่อในวันหนึ่งในชั่วโมงวรรณคดี ข้าพเจ้าลุกขึ้นยืนต่อหน้าชั้น อ่านรายงานเกี่ยวกับบทประพันธ์ของกวีคนโปรดของข้าพเจ้าชื่ออานอน!! (Anon ตัวย่อของคำว่า Anonymous ซึ่งแปลว่า นิรนาม) 

นักศึกษาและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายสาขาต่างเห็นพ้องต้องกันว่า ปัญหางการเรียนอาจถ่ายทอดกันได้ทางกรรมพนธ์ ข้าพเจ้ายืนยัยได้เลยว่าปัญหาทางการเรียนนี้เป็นเรื่องของสายพันธ์แน่แท้ ลูกของข้าพเจ้าได้รับสืบทอดไปทั้ง 2 คน บุตรสาวของข้าพเจ้าอายุ 23 ปี ยังคงไม่รู้สายรู้ขวาอยู่นั่นเอง วันหนึ่งข้าพเจ้าบอกทางให้ไปชายหาดแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากบ้านเราไม่ถึง 5 ไมล์ แล้วเจ้าหล่อนก็ไปไกลถึงกึ่งกลางรัฐของเรานั่นแน่ะ! บุตรชายข้าพเจ้าฉลาดเหยียบขั้นอัจฉริยะแต่ได้ชื่อว่าเป็นคนไม่อยู่นิ่ง เป็นประเภทที่ "เตะโด่งแม่" อยู่เป็นนิจศีลแถมมีภูมิแพ้ร้อยพันชนิด บัดนี้อายุย่างยี่สิบแล้ว ก็ยังคงเป็นคนที่เตะแม่โด่งถึงเพดานอย่างไม่เปลี่ยนแปลงอยู่นั่นเอง

โดยเหตุที่เป็นคนที่มีความทุกข์ทรมานด้วยปัญหาการเรียนมาตลอด ตั้งแต่เป็นเด็กจนกระทั่งเป็นแม่คนก็เข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า เด็กที่นั่งเรียนแล้วไม่รู้เรื่องนั้นเป็นเด็กที่มีความทุกข์อันมหันต์เพียงไร

2 - 3 ปีที่ผ่านมา มีผู้คนเรียกขานเด็กพวกนี้ว่าเป็นเด็กที่มีคลื่นสมองระดับแอลฟา ถนัดใช้สมองซีกขวา และเป็นคนสร้างสรรค์ไม่เหมือนเด็กปกติธรรมดา การวิจัยลาสุดเกี่ยวกับพัฒนาการและความถนัดของสมองได้เปิดประตูออกกว้างให้เราได้มองเห็นและเข้าใจว่า เด็กมีวิธีเรียนรู้อย่างไรบ้าง หลายคนเชื่อว่า การค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับความถนัดของสมองทั้ง 2 ซีก มีผลกระทบอย่างสำคัญต่อวิธีการที่เราจะปฏิบัติต่อเด็กทั้งที่บ้านและที่โรงเรียนว่าต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

การศึกษาส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังคงให้ความสำคัญต่อหลักสูตรที่สร้างขึ้นสำหรับเด็กที่ถนัดใช้สมองซีกซ้าย การค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์ได้ขุดคุ้ยความรู้เกี่ยวกับสมองมากขึ้นทุกที บัดนี้เราเริ่มจะเข้าใจผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กของเรา ความเปลี่ยนแปลงเริ่มเกิดขึ้น พ่อแม่ต่างตั้งต้นไถ่ถามอย่างสนใจใคร่รู้ พ่อแม่และครูเริ่มเข้าประชุมสัมนาหลายๆ โรงเรียนเริ่มนำความคิดใหม้เข้ามาประยุกต์สูตร แม้ปรากฏการณ์นี้ฟังดูเข้าที น่าตื่นเต้นระทึกใจ ปัญหาอันลึกล้ำอย่างหลากหลายก็ยังมีอยู่ สถานศึกษาระดับอุดมศึกษายังคงจัดการศึกษาเพื่อคนที่ถนัดใช้สมองซีกซ้าย ครูที่จบการศึกษาออกมาก็ยังยึดติดอยู่กับวิธีการเดิมๆ แต่มีครูที่ฉลาดและเชื่อญาณปัญญาของตนหลายคนต่างละทิ้งทุ่งหญ้าที่เก็บเกี่ยวมานานปีเพื่อแสวงหา "ทุ่งใหม่ที่มีหญ้าเขียวระบัด" หลายๆ คนที่ยังยึดติดอยู่กับ "ถิ่นเดิม" ก็เพราะเห็นว่า การย่ำเท้าอยู่ในระบบเก่าๆ ย่อมง่ายและสะดวกดายกว่าที่จะต่อสู้ฝืนทวนกระแส ยิ่งกว่านั้น พ่อแม่ปัจจุบันก็ยังคงเป็นผลผลิตของระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม หลายคนจึงไม่สามารถที่จะเข้าใจเด็กของตนได้

แม้ห้องสมุดจะเต็มไปด้วยหนังสือเกี่ยวกับความถนัดของสมองแต่ข้าพเจ้ายังเข้าใจว่า ทั้งครูและพ่อแม่ผู้แม่ผู้ปกครองคงจะได้ประโยชน์มหาศาลจากข้อมูลที่ข้าพเจ้านำมาเรียบเรียงใหม่ โดยเน้นถึงทักษะการเรียนการสอนที่จำเป็น เพื่อเด็กจะได้เรียนอย่างมีประสิทธิภาพ ข้าพเจ้าเชื่อว่าเราน่าจะพิจารณาข้อมูลจากการค้นคว้าวิจัยเฉพาะด้านที่บอกเราว่าเด็กเรียนรู้อย่างไร แทนที่จะค้นหาสาเหตุว่าทำไมเด็กจึงเรียนไม่ได้ เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งยวดที่จะเข้าใจว่าเด็กมีกระบวนการย่อยข้อมูลและเรียนรู้ด้วยลีลาและกลยุทธ์อันหลากหลาย ข้าพเจ้าเชื่อแน่ว่าการพินิจพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนถึงความถนัดของสมองและรูปแบบการคิดของแต่ละคน จะช่วยให้เราได้พบวิธีการสอนที่ตอบสนองความต้องการเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน

ถึงแม้ว่าระบบการศึกษาทั้งระะบบยังมีปัญหามากมายสุดจะเอื้อนเอ่ย แต่เราจะยกเรื่องนี้มาเป็นข้ออ้างที่จะไม่พยายามตอบสนองความต้องการของเด็กแต่ละคนไม่ได้ ความรับผิดชอบที่จะสรรหาประสบการณ์สำหรับผู้ที่ถนัดใช้สมองซีกขวาให้แก่เด็กอยู่ที่ผู้ปกครองและครู การทำใจให้กว้าง ให้สมองเปิดรับความสำคัญของการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบของผู้ที่ถนัดใช้สมองซีกขวาและซีกซ้าย จะทำให้เราเรียรู้ที่จะเคารพความสามารถที่หลั่งไหลออกจากสมองซีกขวา

เด็กควรได้รับการสนับสนุนให้ได้ทดลองเรียนหลายวิธี เราในฐานะผู้ปกครอง พ่อ แม่ และครู ก็น่าจะเรียนรู้วิธีการพร้อม ๆ กันด้วย

"ทฤษฎีจะยังคงสภาพเป็นทฤษฎี ไม่ใช่ความจริงอันปฏิเสธไม่ได้ สิ่งที่ทฤษฎีให้ฉันก็คือ เป็นสิ่งที่เตือนใจฉันว่าฉันยังมีข้อคิดบางข้อซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความจริงที่เกิดขึ้นกับฉันเท่านั้น"
ฮิว แพรเทอร์

"A theory is a theory, not a reality. All a theory can do is remind me of certain thoughts that were a part of my reality then"
Hugh Prather


65 กลวิธีพัฒนาสมองสู่ขีดสูงสุดของศักยภาพ
Barbara Meister Vitale
www.mebmarket.com
บาร์บาร่า ไมสเตอร์ วิตาล ผู้เขียนได้นำประสบการณ์จริงมาเล่าโดยเขียนทำนองประวัติส่วนตัวและเป็นคู่มือครูด้วย เธอถนัดใช้สมองซีกขวาตอนเด็กเธอต้องหาวิธีช่วยเหลือตัวเอง หาวิธีเรียนเองเพราะเรียนรู้อย่างผู้อื่นมิได้เมื่อเป็นครูก็ต้องค้นหาวิธีสอนใหม่เพราะหลักสูตรใช้วิธีแบบเดิมๆซึ่งการพัฒนาสมองที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดคือเริ่มตั้งแต่ปฐมวัย โดยฝึกให้เด็กใช้สมองทุกๆ ส่วนไปพร้อมๆ กัน บาร์บาร่าจึงรวบรวมเทคนิคการสอนเด็กไว้ทั้งหมด 65 วิธี เช่น การออกเสียงตัวสะกด การเขียนอักษรตัวเต็ม เสียงและรูปทรง การสอนเรื่องสี ตัวเลขและรูปทรง การสอนทิศทาง การบวกเลข การลบเลข วิธีสอนเรื่องเวลา เป็นต้น เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ปกครองและครูนำไปฝึกบุตรหลานฝึกสมอง 2 ซีก ทำงานด้วยกันอย่างสมดุล

วันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2560

เซน ในการทำงานอย่าง เซียน




คำนำสำนักพิมพ์

เซน คือ การตื่นรู้ นิ่งว่าง วางทุกข์

เชียน คือ ผู้เก่งกาจในทางใดทางหนึ่ง

ผู้ทำงานอย่างเซนจนเป็นเซียน จึงตื่นรู้และพร้อมเก่งกาจในงานของตน โดยไม่ร่วมว้าวุ่นอย่างสูญเปล่าไปกับผู้คนรอบข้าง ได้ชื่อว่าเป็นผู้บรรลุแล้วถึงยอกเขาแห่งความไร้กังวล

คุณดังตฤณออกแบบให้หนังสือพาคุณเข้าถึงเซนด้วยการทำงานที่คุณกำลังทำอยู่ ด้วยขั้นตอนวิธีตลอดจนภาษาที่ชัดเจน เมื่อฝึกตามจนถึงที่สุด ก็จะพบว่าไม่ต้องรอถึงเวลาพักร้อน ความร้อนในที่ทำงานก็หายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
สำนักพิมพ์ฮาวฟาร์


สารบัญ

  • ชี้แจงแถลงไข
  • ตั้งเป้าเอารางวัลเป็นจิต
  • ระงับกระสับกระส่าย
  • เอาชนะตัวเอง เอาชนะความขี้เกียจ
  • ทำงานด้วย ค้นหาใจที่เย็นด้วย
  • ทำงานเหมือนทำทาน
  • คิดจากความว่าง
  • เก่งงานอย่างเป็นไปเอง
  • ไร้ทุกข์อย่างเป็นไปเอง


ชี้แจงแถลงไข

ก่อนถึงรายละเอียดว่า 'ทำอย่างไร' มาพูดคุยถึงเหตุผลว่า 'ทำไมต้องเซน' กันก่อนครับ

เซนกับนักทำงานระดับโลก

สตีฟ จ็อบส์ (Steve Jobs) ผู้เป็นต้นกำเนิดไอโฟนนั้น เคยฝึกนั่งจ้องกำแพงว่างในวัดเซนแห่งแรกของอเมริกาอยู่หลายสัปดาห์

การนั่งจ้องกำแพงว่างอาจดูเหมือนบ้าสำหรับคนทั่วไป แต่นั่นเป็นหนึ่งในกรรมฐานของเซน ซึ่งได้แม่แบบมาจากหนึ่งในแม่ทัพเซนยุคบุกเบิก คือ ท่านโพธิธรรม ซึ่งว่ากันว่าท่านนั่งจ้องผนังถ้ำอยู่ถึง ๙ ปี

การจ้องกำแพงอย่างพอดีระยะ จะช่วยให้เกิดโฟกัสสายตาที่แน่นอน ไม่กลอกไปกลอกมาตามใจที่ฟุ้งซ่านเลื่อนลอย กำแพงจึงเหมือนจอว่างที่ช่วยให้ย้อนเข้ามาดูการทำงานของจิตได้ง่ายขึ้น กล่าวคือ เห็นว่าคิดว่าคิดอะไร เกิดภาพมิติเลือนรางหรือชัดเจนอย่างไร เกิดความสุขความติดใจ หรืออึดอัดอยากไปให้พ้น 'จอว่าง' ขึ้นมาเมื่อไหร่

ผลที่ต้องการ คือ ยกระดับจิตให้อยู่เหนือความคิด สามารถเท่าทันการก่อตัวของความคิด รู้เห็นกระบวนการมาและการไปของกลุ่มความคิดได้ ทางจิตวิทยายุคใหม่เรียกความสามารถในการรู้ความคิดตนเองว่า Metacognition ซึ่งมีนิยาม คือ thinking about thinking หรือ 'คิดถึงความคิด'

มีนักคอมพิวเตอร์บางคนเปรียบเทียบไว้ว่าถ้าทำเช่นนั้นได้ต่อเนื่องพอ ก็เหมือนแฮกระบบของสมองเข้าไปเห็นความลับก่อนเกิดความคิด ผู้ที่เข้าถึงจึงอาจ 'อัพเกรดระบบ' คือ แก้ไขหรือปรับเปลี่ยนกระบวนการคิดอ่านเสียใหม่ หรือไม่ก็ใช้ประโยชน์ขั้นก้าวหน้า ในระดับสูงขึ้นทางจิตวิญญาณ เห็นความคิดไม่ใช่ตัวตน

สตีฟ จ็อบส์ ให้สัมภาษณ์ วอลเตอร์ ไอแซคสัน (Walter Isaacson) เพื่อเขียนหนังสือชีวประวัติเกี่ยวกับตนเองอย่างเป็นทางการ มีใจความสำคัญคือ ความเป็นนักคิดค้น หรือนักสร้างวิสัยทัศน์ในตัวเขา ได้รับอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงจากวินัยและการฝึกฝนแบบเซน

ไม่มีใครรู้ดีเท่า สตีฟ จ็อบส์ ว่าเขาได้อะไรดีๆ มาจากเซนบ้าง แต่มีคนอยากรู้อะไรดีๆ เกี่ยวกับเซนมากขึ้นเยอะ ในเมื่อหนึ่งในศิษย์เซนตลอดชีพอย่าง สตีฟ จ็อบส์ ทรงพลังขนาดพลิกโฉมหน้าวงการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งโลก แถมยังทำให้บริษัทแอปเปิ้ลที่เขาสร้างมากับมือ มีมูลค่าตลาดเป็นอันดับหนึ่งของโลกได้ก่อนตาย

ในการทำงานระดับโลกนั้น ปัจจุบันอยู่ในยุค 'คิดก่อน ได้ก่อน' ปัญหาคือ คิดได้นั้นไม่ยากแต่คิดในสิ่งที่เป็นของแปลกใหม่ โดนใจใช่เลย เข้าขั้นเรียกว่า 'นวัตกรรม' ได้เต็มปากเต็มคำนั้น ยากเย็น และไม่ทราบจะเอาหลักสูตรไหนมาเป็นหลักตั้ง

สตีฟ จ็อบส์ แค่พูดคำเดียวว่า หนังสือแนวคิดเชิงธุรกิจเล่มใด 'ต้องอ่านให้ได้' หนังสือเล่มนั้นก็แทบจะกลายเป็นหนังสือขายดีระดับข้ามชาติขึ้นมาทันทีแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจหากนิกายเซนซึ่ง สตีฟ จ็อบส์ ยกย่องให้เป็นหลักใจของเขาอยู่เสมอ จะกลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงในหมู่คนยุคไอที โดยเฉพาะคนวัยทำงานที่ยึดถือ สตีฟ จ็อบส์ เป็นแบบอย่างหรือกรณีศึกษา

หนังสือ หลักสูตร หรือสัมมนาอบมพัฒนาทักษะการทำงานใด โยงเอาเซนมาเป็นแม่บท จึงไม่ถูกมองว่าเชย คร่ำครึ หรือเป็นปัญญาโบราณล้าสมัยอีกต่อไป เนื่องจากสินค้าไอทีที่มีดีไซน์ล้ำยุคพลิกโลกเช่นไอโฟน ก็ดูเหมือนจะมีรากมาจากปรัชญาแบบเซนนั่นเอง

แล้วจริงๆ มีอะไรน่ารู้เกี่ยวกับเซนบ้าง?

เซนคืออะไร?

เซน (Zen) คืออะไร เป็นพุทธนิกายมหายาน นับถือกันอย่างแพร่หลายในแถบเอเชียตะวันออก เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี แม้กระทั่งในไทยก็มีผู้สนใจอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย ชัดหน่อยก็เช่นหมู่บ้านพลัมซึ่งมีการปฏิบัติแบบเซนอยู่

คำว่า 'เซน' เป็นศัพท์ญี่ปุ่นที่ตรงกับคำว่า 'ฉาน' ในภาษาจีน (หากเป็นจีนแต้จิ๋วจะออกเสียงว่า 'เซี้ยง') ฉานจะมาจากคำว่า 'ธฺยาน' ในภาษาสันสกฤตอีกทอดหนึ่ง เมื่อเทียบถึงที่สุดแบบที่ชาวพุทธเรารู้จักกัน ธฺยานก็คือ 'ฌาน' ในภาษาบาลีนั่นเอง

ฌานคือจิตที่เข้าถึงความเป็น 'อัปปนาสมาธิ' คือ มีความแนบแน่นอยู่ในอารมณ์เดียวจิตใหญ่เป็นมหัคคตะ ไร้ความคิดอันเป็นเหตุให้ซัดส่ายจากความเป็นหนึ่ง จึงสว่างจ้าอยู่อย่างมั่นคงในช่วงเวลานานเต็มอิ่ม

แต่เซนไม่ใช่ฌานธรรมดา สาเหตุจริงๆ ที่ได้ชื่อว่า 'เซน' ก็เพราะวิถีแห่งเซนจะเน้นเรื่องการเข้าถึงสมาธิอันตื่นรู้ โดยไม่เกี่ยงว่าจะใช้วิธีดั้งเดิม คือขบปริศนาธรรมโกอาน หรือทำสมาธิจ้องกำแพงว่างที่เรียก 'ซาเซน' (Zazen) หรือฝึกลากพู่กันวาดวงกลมในชั่วหนึ่งลมหายใจที่เรียก 'เอนโซ่' (Ensō) โดยแบบวิธีเกี่ยวกับสมาธิต่างๆ เริ่มแพร่หลายในช่วงที่เซนถูกนำมาเผยแพร่ในญี่ปุ่น

ผู้ที่แจ่มแจ้งในเซน จะถึงซึ่งขณะหนึ่งแห่งการบรรลุ เป็นอิสระจากความเข้าใจผิด เรียกว่า 'ซาโตริ' ซึ่งเทียบกับทางเถรวาทก็คือ 'บรรลุมรรคผล' โดยขั้นสุดยอดของซาโตริจะทำลายอุปาทานที่กักขังบุคคลไว้ในวังวนทุกข์เสียได้ ไม่วนกลับมาอีก บริสุทธิ์แล้วบริสุทธิ์เลย เป็นความถาวรของ 'การไร้กระจกให้ฝุ่นจับ'

เซนได้รับอิทธิพลมาจากลิทธิขงจื๊อและลัทธิเต๋า ฉะนั้น ภาษา สำนวน ตลอดจนวิธีพูดถึงภาวะระดับสูง จึงละม้าย คล้าย หรือกระทั่งเหมือนกัน หลายคนสับสนระหว่างคำว่า 'เต๋า' กับ 'เซน' และ นึกว่าเป็นอันเดียวกัน ความจริงแล้วผู้ก่อตั้งเต๋า คือ เล่าจื๊อ เคยอธิบายไว้ว่า "ไม่ทราบจะเรียก 'สิ่งนั้น' ว่าอะไร จึงขอเรียกว่า 'เต๋า' ไปพลางๆ" หมายความว่า ท่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับซื่อมากนัก แต่สิ่งที่ท่านเรียก ก็คือนิพพานสำหรับเถรวาทเรานั่นเอง เพราะเล่าจื๊อเคยบรรยายไว้ว่าเต๋าคือสิ่งที่พ้นภาวะคู่ เช่นไม่มีสั้นไม่มียาว ไร้การกระทำ ไม่เป็นที่ตั้งให้สิ่งที่เราเคยๆ รู้จัก ไม่แม้แต่จะจินตนาการถึงสิ่งนั้นกันได้ ซึ่งพระพุทธเจ้าก็เคยตรัสถึงนิพพานโดยความเป็นเช่นนั้นเช่นกัน

อันที่จริงต้นตำหรับเซน น่าจะมีความใกล้ชิดหรือมีความเป็นพุทธดั้งเดิมมากกว่าเต๋า เพราะถือกำเนิดจากอินเดียอันเป็นประเทศแม่ของพุทธศาสนา ก่อนจะมีผู้นำเข้ามาในจีน แล้วกลายเป็น 'ศิลปะทางวิญญาณ' ในญี่ปุ่น ดังที่คนส่วนใหญ่ในโลกรู้จักกัน

ถ้านึกไม่ออกว่านิกายหนึ่งๆ ของพุทธเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็ขอให้นึกถึงชาวพุทธใกล้ๆ ตัวเราสักคน ที่ไม่ชอบพูดคุยกับนักวิชาการ แหนงหน่ายการถกเถียงว่าบัญญัติแบบใดผิดตลอดจนไม่ชอบเรื่องแวดล้อมอื่นๆ ทางศาสนา เช่น นรก สวรรค์ กฎแห่งกรรมวิบาก แต่อยากพูดถึงประสบการณ์ทางจิต ที่ตรง ที่เย็น ที่ตั้งมั่นรู้ออกมาจากความว่าง เป็นรสที่เหนือรส เป็นอภิสิทธิ์ของคนใจถึงที่พร้อมทิ้งโลก หากคนๆ นั้นแก่กล้าพอจะเผยแพร่แนวทางเข้าถึงประสบการณ์ทางจิตแบบพุทธะตรงๆ ได้ แล้วจะเรียกแนวทางของตนเองว่า 'เซน' หรืออะไรอื่น ก็ต้องมีคนยอมรับเป็นจำนวนมาก

ความโดดเด่นของเซนในโลกยุคไอที

ความโดดเด่นของเซน อยู่ตรงที่ความสามารถในการสื่อสาร 'พุทธะ' ให้เป็นที่รู้จักในโลกกว้างได้  โดยไม่จำเป็นต้องติดภาพพุทธที่ชัดเจนนัก ดังเช่นที่ชาวคริสเตียนนอกเขตเอเชียรวมตัวกันเรียกกลุ่มของตนเป็นนิกายชื่อ "คริสเตียนเซน" เป็นต้น

ปัจจุบันเซนในความรับรับรู้ของคนทั่วไป มักสื่อถึง 'ความเป็นพุทธที่นำมาใช้ได้จริงกับฆราวาส' นับเริ่มตั้งแต่มีพิธีชงชาแบบเซน การจัดดอกไม้แบบเซน การจัดสวนแบบเซน วิถีซามูไรแบบเซน การยิงธนูแบบเซน การเล่นหมากล้อมแบบเซน ซึ่งเน้นเรื่องพื้นฐานขณะจิตอันเป็นสมาธิแบบเซนก่อนเกิดการกระทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะเมื่อมีสมาธิแบบเซน ย่อมรู้จักความว่าง และนำไปจัดตำแหน่ง ส่งพลังเคลื่อนไหว ตลอดจนสร้างศิลปะที่เห็นแล้วรู้สึกถึง 'จังหวะแห่งช่องว่างอันเหมาะเจาะงดงาม' ด้วยตาเปล่า สร้างความรู้สึกสงบสุขได้ทันที

พูดง่ายๆ คนเข้าถึงความว่างอย่างเซน จะนึกอยากหาวิธีสะท้อนความรู้สึกว่างในตนให้ออกมาเป็นรูปธรรม ทางหนึ่งเพื่อจะฝึกสมาธิอยู่กับความว่าง และอีกทางคือเป็นการเผื่อแผ่ให้คนอื่นจะได้เกิดความรู้สึกแบบเดียวกัน หรือโน้มเอียงไปในทางเดียวกัน

พอถึงยุคอินเตอร์เน็ตเรา เซนได้พัฒนาเป็น 'ส่วนหนึ่งของจิตวิญญาณแบบมืออาชีพ' ไปแล้ว กล่าวคือ ดูเหมือนใครๆ ในสาขาไหน ก็เอาเซนไปประยุกต์กับอาชีพของตนได้ หากจะสืบสำรวจแบบง่ายๆ เร็วๆ หน่อย ก็ให้ดูจากแหล่งหนังสือใหญ่อย่าง amazon.com   คุณจะพบทั้ง เซนในศิลปะการพยาบาล (Zen in the Art of Nursing) เซนแห่งการตลาดโซเชียลมีเดีย (The Zen of Social Media Marketing) เซนแห่งการเดี่ยวไมโครโฟน (Zen and the Art of Stand-Up Comedy) จิตวิทยาเซนแบบกระชับสั้น (ZEN PSYCHOLOGY In A Nutshell) หมากรุกเซน (Aen Chess) การตกแต่งภายในอย่างเซน (Zen Interiors) และอะไรต่ออะไรอีกไม่รู้เท่าไหร่

และเพียงใช้กูเกิลหาคำว่า 'Zen of' ผลลัพธ์เกี่ยวกับมุมมองเฉพาะทางอย่างเซน จะมีเป็นอเนกอนันต์นับไม่ถูก ทั้งนีเพราะชาวโลกจำนวนมากหันมาสนใจเซนในแบบที่เข้ากันกับสาขาอาชีพของตน ไม่ใช่เซนในฐานะของนิกายทางศาสนา มืออาชีพในศาสตร์ต่างๆ ที่หันมาเขียนหนังสือแนงเซน บางคนออกตัวเลยว่าไม่ใช่ชาวพุทธ แล้วก็ไม่ได้เข้าใจหลักเซนลึกซึ้ง แต่บังเอิญไปสะดุดเข้ากับถ้อยคำชวนสงบและก่อปฏิภาณอย่างเซน ตลอดจนเห็นความเข้ากันได้กับจิตวิญญาณแบบมืออาชีพเช่นตน

โดยแก่นของเซนประยุกต์ มืออาชีพทางศาสตร์และศิลป์แบบโลกๆ จะ 'ขอยืม' หลักเซนมาเป็นตัวตั้งเพื่อให้เกิดความคิดรวบยอดเท่านั้นไม่ได้เน้นจาระไนเซนโดยพิสดารแต่ประการใดหรืออาจกล่าวว่า 'เซน' ได้กลายเป็นศัพท์สาธารณะนำไปประยุกต์ได้ตามมุมมองที่แต่ละคนประสบสัมผัสหรือประทับใจ หาใช่เซนตามแบบฉบับดั้งเดิมไม่

เซนในมุมมองของดังตฤณ

โดยมุมมองส่วนตัว ผมเริ่มเข้าใจและเชื่อว่าเซนไม่ใช่พุทธแตกแถว ครั้งแรกก็เมื่อเห็นเอนโซ่ซึ่งเป็นภาพวาดวงกลมสื่อพลังแห่งการรู้แจ้ง อาณาจักรความว่างอันยิ่งใหญ่ และภาพนั้นมีคำบรรยายประกอบอยู่สามบรรทัด คือ
ภายนอก - ว่างเปล่า
 ภายใน - ว่างเปล่า
ทั้งภายในและภายนอก - ว่างเปล่า




ศิลปะเอนโซ่อันประกอบถ้อยคำอันทรงพลังแห่งเซนนั้น ทำให้ผมสัมผัสรู้สึกจิตของเหล่าอริยบุคคลผู้สามารถรู้จักอารมณ์แห่งสมาธิจิตอันว่าง (สุญญตะ) ไม่มีนิมิต (อนิมิตตะ) ไม่มีที่ตั้ง (อัปปณิหิตะ) ซึ่งเป็น 'ว่างอย่างรู้' อันลึกซึ้ง เข้าถึงรสอันเหนือรส (หมายเหตุ - ความรู้สึกว่าว่าง ไม่มีนิมิต ไม่มีที่ตั้ง นั้นไม่ใช่นิพพาน แต่เป็นความรู้สึกเป็นภาวะปรุงแต่งทางจิต ดังที่สมัยพุทธกาลเคยมีผู้สัมภาษณ์ท่านธรรมทินนาภิกษุณี ที่สามารถเข้านิโรธสมาบัติแล้วรู้สึกอย่างไร ท่านตอบว่า ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้น คือ ว่าง ไม่มีนิมิต ไม่มีที่ตั้ง)

ความรู้สึกถึง 'ว่างนอก ว่างใน ว่างทั้งในและนอก' นั้น แม้ในหลักปฏิบัติสติปัฏฐานที่พระพุทธเจ้าประทานแนวทางไว้ ก็มีอยู่ คือ ท่านให้เห็นกายใจทั้งภายใน (ของเรา) ทั้งภายนอก (ของคนอื่น) ทั้งภายในและภายนอก (คือเห็นเราเห็นเขาควบคู่พร้อมกันไป) ซึ่งแต่ละการเห็น ย่อมกะเทาะเปลือกตัวตน เกิดความรู้สึกว่างจากตัวตนไปทีละเปลาะ กระทั่งกะเทาะออกได้หมดไม่มีเหลือ แปรความรู้สึกยึดติดเหนียวแน่นทั้งข้างในและข้างนอก เป็นความวาง ว่างสนิท ไม่มีธรรมอันเป็นภายในหรือภายนอกเกาะกุมหุ้มห่อจิตได้อีก

ด้วยแก่นของเซนที่สื่อตรงถึงแก่นเดิมของพุทธ ผมจึงเชื่อว่าถ้าพูดถึง 'พุทธะ' ในความหมายของเถรวาทเรา ก็คือพูดถึง 'เซน' ในความหมายของมหายานนั่นเอง

หลายปีที่ผ่านมา มีผู้ขอให้ผมเขียนหนังสือเกี่ยวกับการทำงานกันหลายคน ซึ่งผมเห็นประโยชน์ แต่ก็ไม่อยากเขียนเนื้อหาที่มีชื่อหนังสือประมาณ 'ทำงานแบบพุทธ' หรือ 'เข้าถึงพุทธะด้วยการทำงานแบบโลกๆ' เนื่องจากโดยความเห็นส่วนตัว ผมไม่คิดว่า 'พุทธะ' สมควรนำมาผูกโยงกับการทำงานแบบโลกๆ 

ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คำว่า 'พุทธะ' ยังคงสืบทอดความเป็น 'ของสูง' มาโดยตลอด กล่าวคือ เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน จากการเจริญสติปัฏฐานตามแนวทางดั้งเดิมของพระพุทธเจ้า หากมีการนำคำนี้ไปใช้ในทางอื่น ผมคงอยากคัดค้านมากกว่าสนับสนุน

แต่คำว่า 'เซน' นั้น นับแต่อดีตถึงปัจจุบันได้ทำประโยชน์กว้างขวาง เผยแผ่พระสัทธรรมด้วยเส้นทางที่บางทีอาจถูกวิจารณ์ว่าเป็น 'ใต้ดิน' แต่ก็ประสบความสำเร็จจริง คือ ลากจูงคนไม่เข้าใจพุทธให้หันมาสนใจ ศึกษา ตลอดจนเข้าถึง 'เซนแบบพุทธจริงๆ' ได้ในภายหลัง

ฉะนั้น ถ้าจะ 'ขอยืม' ยี่ห้อเซนมาเป็นแกนกลางในการสื่อความเข้าใจว่า จะทำงานโลกๆ ด้วยจิตแบบไหน จึงเขยิบเข้าใกล้ความเป็นพุทธะกันได้ก็น่าจะเป็นเรื่องน่ายอมรับกว่ากัน

สำหรับมือใหม่ ผมพบว่าอาศัยเซนเป็นแกนเขียนเกี่ยวกับวิธีทำงานอย่างพุทธนั้น ช่วยขจัดความยุ่งยากเกี่ยวกับการจดจำศัพท์แสง ให้ความรู้สึกว่าพุทธอยู่ใกล้ตัว ทำได้จริง ไม่สูงส่งเกินเอื้อม

ส่วนผู้ที่ฝักใฝ่การเจริญสติมานาน ก็จะได้เห็นช่องทางเป็นไปได้จริงที่จะทำงานไปด้วย  เจริญสติไปด้วย ปลดเลื้องข้ออ้างที่ว่า 'ต้องทำงาน ไม่มีเวลาเจริญสติ' กันได้เสียที

เซนในการทำงานเหมาะกับใคร?

อย่างที่บอกครับว่า เซนแตกต่างจากพุทธแบบที่ไทยคุ้นเคย ผู้นิยมแนวเซน ควรเป็นผู้ที่ต้องการประสบการณ์ทางจิต โดยไม่ต้องคุยกัน เรื่องแวดล้อมอื่นๆ ลองนึกถึงฝรั่งที่ไม่มีคนใกล้ตัวพูดเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดเ้าหูเลย สนใจแต่เรื่องทำมาหากิน ซึ่งพอทำๆ ไปแล้วก็เครียด เป็นทุกข์เป็นร้อน อยากได้แนวทางทำงานที่ช่วยให้รับมือความกดดันในที่ทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งพอฟังเรื่องเกี่ยวกับเซนในที่ทำงานว่าช่วยได้ รับรองว่าเย็นใจเข้าเป้า เขาก็คงไม่สนใจว่าจะแตกแขนงมาจากพุทธที่ปลูกศรัทธากันด้วยหลักกรรมวิบาก แต่สนใจว่าเซนมีคำแนะนำอย่างไร ช่วยให้ 'เครื่องร้อนน้อยลง' ด้วยวิธีไหน

ภาษาของเซน เป็นภาษาของประสบการณ์ตรงทางจิต ฉะนั้น หากจิตแบบเซนคือความสงบเย็น ก็เป็นธรรมดาที่ถ้อยคำแห่งเซนคล้ายเป็นลำนำแห่งความสงบ จากนั้นจึงค่อยๆ พัฒนาให้เข้าถึงความเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน หากคุณอ่านแล้วได้ความสงบ รู้สึกมีสติ ตื่นตัว ไม่จมจ่อมเซื่องซึม ตลอดจนอยากฝึกทำงานเพื่อรักษาสภาพความสงบอย่างตื่นรู้เอาไว้ อันนั้นก็แปลว่าวิถีแห่งเซนเหมาะกับคุณแล้ว

อย่างไรก็ตาม แม้เซนจะมีเอกลักษณ์ในเรื่องความสงบอย่างง่ายดาย ชวนให้ผู้ศึกษาเข้าใจว่านามธรรมอันลุ่มลึกอาจเข้าถึงได้ด้วยวิถีแห่งความเรียบง่าย ไม่ต้องทำอะไรมาก กระทั่งเกิดความคาดหวังว่า อ่านหนังสือเกี่ยวกับเซนจบ จะสงบต่อไปชั่วนิรันดร์ ถ้าคุณคิดเช่นนั้น ก็ขอให้เปลี่ยนความเข้าใจไว้แต่เนิ่นๆ 

ใจคนเราถูกปรุงแต่งไปเรื่อยตามสิ่งที่เข้ามากระทบ เหมือนอาบน้ำเย็น ย่อมรู้สึกว่าตัวเย็นลง และมีความสดชื่นกว่าตอนออกกำลังกายเหนื่อยๆ ร้อนๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า คุณจะเย็นและสดชื่นเช่นนั้นตลอดไป

บนวิถีแห่งเซน คุณจะได้เรียนรู้ว่าก่อนจะถึงความเรียบง่ายได้จริง คนเราต้องผ่านความยุ่งยาก และถางทางลำบากให้หมดเสียก่อน

หนังสือเล่มนี้ ไม่ได้สอนให้ขบปริศนาธรรม ไม่ได้สอนให้ทำซาเซน ไม่ได้สอนให้วาดเอนโซ่ แต่สอนให้ใช้งานที่คุณทำอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ในการเข้าถึงเซน หรืออย่างน้อยที่สุดก็อยู่บนวิถีแห่งเซน

เนื้อหาของหนังสือออกแบบมาให้คุณอ่านแล้วส่องย้อนเข้ามาในจิต เห็นพัฒนาการทางจิตที่ขยับใกล้เซนเข้าไปเรื่อยๆ โดยแต่ละบทจะบอกว่าจิตแบบเซนเป็นอย่างไร จากนั้นจึงบอกวิธีการที่ชัดเจนตรงไปตรงมา ว่าจะเข้าถึงแง่มุมนั้นๆ ของจิตแบบเซนได้อย่างไร

ระหว่างอ่านหนังสือ คุณจะไม่พบข้อแตกต่างระหว่างวิถีพุทธแบบเซน เนื่องจากผมคัดเลือกไว้เฉพาะที่ลงกันได้สนิทโดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิธีทำสมาธิ ซึ่งจะมีความพิเศษตรงคำอธิบายประกอบภาพ อ่านวิธีการพร้อมมองภาพแล้วนำไปทำตามได้ทันที เห็นผลที่เกิดขึ้นตามภาพทันที

แม้จะเน้นการเข้าถึงเซนเพียงใด หนังสือก็ไม่ลืมว่าคุณต้องการเก่งงานมากกว่าเก่งนิ่ง ฉะนั้นเนื้อหาทั้งหมดจึงพุ่งเข้าหาเป้าหมายสำคัญ คือ นิ่งว่างอย่างเซนเพื่อเป็นเซียนในงาน ควบคู่ไปกับการเห็นการทำงานของจิตเพื่อไร้ทุกข์อย่างเป็นไปเองซึ่งนั่นควรนับเป็นความน่าพอใจสูงสุดสำหรับคนเมืองแล้ว จริงไหม?

ดังตฤณ
เมษายน ๕๖

เมื่อใจนิ่งว่างเป็นฐาน
จะฟุ้งซ่านในงานเพียงใดก็ไม่กระเจิง
Howfarbooks.com

เซ็นแบบพุทธทาส
วัชระ เซน
www.mebmarket.com
"ถ้าเรารู้จักปัจจัยที่ทำให้สุข เราก็จะสุขได้แม้กายเราไหวใจก็สงบ"
เสียงอ่านหนังสือ  "เซนในการทำงานอย่างเซียน"

คู่มือสร้างเว็บไซต์ด้วย HTML5, CSS3 & JavaScript ฉบับสมบูรณ์



Introduction

ปัจจุบันเว็บไซต์ต่างๆ มีจุดประสงค์และรูปแบบการนำเสนอเนื้อหาของเว็บไซต์ที่ต่างกันออกไป เช่น Facebook เป็นเว็บไซต์ในรูปแบบ Social Network สำหรับการพบปะพูดคุยกัน, Bloggang เป็นเว็บไซต์สำหรับให้สมาชิกสร้างพื้นที่ส่วนตัวในการนำเสนอเนื้อหาต่างๆ หรือ Weloveshoping เป็นเว็บไซต์สำหรับการนำเสนอสินค้าและซื้อขายสินค้าแบบออนไลน์ เป็นต้น รวมไปถึงเว็บไซต์ขององค์กรต่างๆ ก็ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้สำหรับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์ขององค์กรด้วย

เทคโนโลยีในปัจจุบันช่วยเอื้อให้เว็บไซต์ต่างๆ สามารถนำเสนอเนื้อหาได้อย่างมีสีสันและมีลูกเล่นเพิ่มมากขึ้น ภาษาที่ใช้สำหรับพัฒนาเว็บไซต์ เช่น JavaScript และ CSS รวมไปถึง HTML ก็ถูกพัฒนาให้มีความสามารถมากขึ้น จาก HTML 4.0 มาเป็น HTML5 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดที่เรียกได้ว่าเป็นการปรับปรุงการพัฒนาเว็บไซต์ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น เนื่องจากคุณสมบัติใหม่ของ HTML5 ช่วยให้การพัฒนาเว็บไซต์นั้นมีลูกเล่นต่างๆ ที่สามารถรองรับการทำงานของผู้ใช้งานได้มากขึ้น

หนังสือเล่มนี้จะนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับ HTML5, JavaScript, และ CSS3 โดยจะแนะนำคุณสมบัติใหม่ของ HTML5 เช่น Canvas, Semantic Markup, Geolocation, Local Storage เป็นต้น โดยเริ่มอธิบายตั้งแต่ลักษณะเด่นของคุณสมบัติแต่ละประเภท รูปแบบการนำคุณสมบัติแต่ละประเภทไปใช้งาน รวมถึงตัวอย่างโค้ดโปรแกรมแบบง่ายๆ ไปจนถึงขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีการปูพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งอาจยังไม่เคยศึกษาภาษา HTML, JavaScript, หรือ CSS ในเวอร์ชั่นเดิมมาก่อนด้วย

ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้ผู้อ่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษา HTML5 เป็นอย่างดี และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาเว็บไซต์ตามที่ต้องการ
กังวาน อัศวไชยวศิน




Contents

CHAPTER 01 : เปิดตัว HTML5

 เหตุผลที่ควรศึกษา HTML5

- HTML5 เป็นเทรนใหม่ของการพัฒนาเว็บไซต์
- รู้ HTML ก็สร้างรายได้ง่ายๆ
- HTML5 มีคุณสมบัติใหม่ที่โดดเด่นช่วยให้การพัฒนาเว็บเพจเป็นเรื่องง่าย

  • Canvas
  • Audio/Video
  • Semantic markup
  • Geolocation
  • Drag and Drop
  • Local Storage
  • ContentEditable
  • Form Enhancement

HTML5 แตกต่างจาก HTML เวอร์ชั่นก่อนอย่างไร?

Modernnizr... ตรวจสอบว่า HTML5 ทำงานบนเว็บบราวเซอร์ใดได้บ้าง

- วิธีการดาวน์โหลด Modernizr
- วิธีเรียกใช้งาน Modernizr

Dreamveaver กับการสร้างเว็บเพจด้วย HTML5

- เริ่มต้นใช้งาน Dreamweaver
- สร้างเว็บเพจใหม่ด้วย HTML5 โดยใช้โปแกรม Dreamweaver
- บันทึกเว็บเพจในโปรแกรม Dreamweaver
- การเรียกดูผลลัพธ์ของเว็บเพจ

CHAPTER 02 : ปรับแต่งเว็บเพจด้วย CSS3

CSS3

- Selector
- Background, Border และ Text
- Multicolumn Layout
- Web Font
- RGBA, HSL, HSLA
- Gradient

CHAPTER 03 : Canvas วาดภาพสารพัดนึกบนเว็บเพจ

Canvas คืออะไร

- การเรียกใช้งาน Canvas ในเว็บเพจ

Canvas กับเว็บบราวเซอร์

Canvas Context

พิกัดของ Canvas

การลากเส้น วาดรูป และระบายสีบน Canvas

- การระบายสีบนพื้นที่ภายใน Path
- การวาดสี่เหลี่ยม
- การลบสีและเส้นบน Canvas
- การวาดเส้นโค้งและวงกลม

การแสดงข้อความบน Canvas

การแสดงรูปภาพบน Canvas

วาดการ์ตูนบน Canvas

จาก Flash สู่ HTML5

- Wallaby
- Google Swiffy

CHAPTER 04 : Audio & Video เสียงและภาพแบบไม่ต้องพึ่งพา Plug-in

ทำไมต้องเพิ่มแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO>?

การเรียกใช้งานแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO> ในเว็บเพจ

- เรียกใช้งานแท็ก <VIDEO>
- เรียกใช้งานแท็ก <AUDIO>

ตรวจสอบการรองรับการทำงานของแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO>

Format และ Codec ของไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียง

- Format และ Codec เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
- ประเภทของไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียงสำหรับแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO>
  • การเรียกใช้แท็ก <VIDEO>
  • การเรียกใช้แท็ก <AUDIO>

Modernizr กับการตรวจสอบประเภทของไฟล์

การให้เว็บบราวเซอร์เลือกโหลดไฟล์ด้วยแท็ก <SOURCE>

คุณสมบัติต่างๆ ของแท็ก <VIDEO>

- ตัวอย่างการใช้งานคุณสมบัติต่างๆ ของแท็ก <VIDEO>
  • กำหนดคุณสมบัติ Autoplay
  • กำหนดคุณสมบัติ Muted
  • กำหนดคุณสมบัติ Poster

คุณสมบัติต่างๆ ของแท็ก <AUDIO>

ควบคุมการทำงานของแท็ก <VIDEO> และ <AUDIO> ด้วย JavaScript

- การโหลดไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงให้แสดงผล
- การสั่งเล่น/หยุดเล่นไฟล์วิดีโอชั่วคราว
- การปิด/เปิดเสียง
- การปรับระดับความดังของเสียง
- การสั่งให้แสดงผลไฟล์วิดีโอแบบวนซ้ำ
- การเลื่อนเนื้อหาไฟล์วิดีโอไปยังตำแหน่งที่ต้องการ

<CANVAS> ช่วยเพิ่มลูกเล่นการแสดงผลไฟล์วิดีโอ

- หลักการทำงานของการแสดงผลไฟล์วิดีโอ
- หลักการกำหนดเอฟเฟ็คต์ให้กับไฟล์วิดีโอด้วย Canvas
  • การประกาศแท็ก <CANVAS> ให้ทำงานร่วมกับแท็ก VIDEO
  • การดึงภาพในแต่ละเฟรมของไฟล์วิดีโอเพื่อนำไปกำหนดเอฟเฟ็คต์
  • โครงสร้างของภาพในแต่ละเฟรม
  • การกำหนดเอฟเฟ็คต์ให้กับภาพในแต่ละเฟรม

ตรวจสอบข้อผิดพลาดในการแสดงผลไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียง

- Streaming กับ HTML5

CHAPTER 05 : Semantic Markup แท็กใหม่ไฉไลกว่าเดิม

Semantic Markup คืออะไร

แท็ก <DIV> กับ Semantic Markup

Semantic Markup กับ Search Engine

การใช้งาน Semantic Element

- แท็ก <HEADER>
- แท็ก <FOOTER>
- แท็ก <NAV>
- แท็ก <ARTICLE>
- แท็ก <SECTION>
- แท็ก <ASIDE>
- แท็ก <HGROUP>
- แท็ก <FIGURE> และ <FIGCAPTION>


CHAPTER 06 : คุณอยู่ที่ไหน? บอกง่ายๆ ได้ด้วย Geolocation

Geolocation คืออะไร

Latitude Longitude

Geolocation กับการ check-in ตำแหน่งที่อยู่

การทำงานของ Geolocation API

การใช้งาน Geolocation API

รายละเอียดของข้อมูลพิกัด

จัดการกับ Error กรณีค้นหาข้อมูลพิกัดไม่สำเร็จ

กำหนดรายละเอียดของการค้นหาพิกัดด้วย Options

การค้นหาพิกัดขณะเคลื่อนที่

การทำงานร่วกับแผนที่


- รู้จักกับ Google Maps
- การแสดงผล Google Maps ในหน้าเว็บเพจ
- การปักหมุดแสดงตำแหน่งบนแผนที่
- สร้าง GPS แบบง่ายๆ ด้วย Google Maps

CHAPTER 07 : Drag and Drop ลากวางง่าย ๆ อย่างใจคิด

ทำไมต้อง Drag and Drop?

ทำอย่างไรให้เนื้อหาบนหน้าเว็บเพจถูกลากได้

วางเนื้อหาที่คลิกลากมาบนหน้าเว็บเพจได้อย่างไร

Drag and Drop กับการทำงานร่วมกับ Canvas

- อธิบายการทำงานของโปรแกรม

CHAPTER 08 : Local Storage เก็บข้อมูลแบบถาวรบนเครื่องผู้ใช้งาน

การเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานด้วยคุกกี้

- คุกกี้คืออะไร
- การทำงานของคุกกี้
- ข้อจำกัดและช่องโหว่ของคุกกี้ 

HTML5 Web Storage

LocalStorage เก็บ้อมูลแบบถาวรบนเครื่องผู้ฝช้งาน

- ความแตกต่างระหว่างคุกกี้และ LocalStorage
- ตรวจสอบการรองรับคุณสมบัติ LocalStorage ของเว็บบราวเซอร์
- การเก็บและเรียกใช้ข้อมูลใน LocalStorage 
  • ตัวอย่างที่ 1 : การเก็บและดึงค่าสีพื้นหลังของเว็บเพจใน localStorage 
- การเรียกใช้งาน localStorage แบบอาร์เรย์
  • ตัวอย่างที่ 2 : การเก็บและดึงค่าสีพื้นหลังของเว็บเพจใน localStorage แบบอาร์เรย์
- การเก็บและดึงค่าข้อมูลชนิดออบเจ็คใน localStorage
  • ตัวอย่างที่ 3 : การเก็บและดึงค่าคะแนนซึ่งเป็นข้อมูลชนิดออบเจ็คใน localStorage
- ทราบได้อย่างไรว่าพื้นที่เก็บข้อมูลใน localStorage เต็ม
- การลบข้อมูลใน localStorage

  • ตัวอย่างที่ 4 : การเคลียร์ค่าคะแนนใน localStorage

sessionStorage : เก็บข้อมูลชั่วคราวบนเครื่องผู้ใช้งาน

การเลือกใช้งาน localStorage หรือ sessionStorage

เก็บข้อมูลในแบบฐานข้อมูลด้วย Web SQL Database และ IndexedDB

- Web SQL Database
- IndexedDB
- อนาคตของ Web SQL Database และ IndexedDB

CHAPTER 09 : ContentEdiatable แก้ไขข้อมูลได้ทันใจต้องการ

การแก้ไขข้อมูลบนหน้าเว็บเพจ

ContentEdiatable กับแท็ก HTML
- การกำหนดค่าให้กับคุณสมบัติ ContentEditable

- การแสดงผลของเว็บบราวเซอร์เมื่อกำหนด contenteditable=true

เหตุการณ์ของเว็บบราวเซอร์ที่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติ ContentEdiatable

ContentEditable กับการทำงานร่วมกับ Local Storage

การประยุกต์ใช้งานคุณสมบัติ ContentEditable

CHAPTER 10 : เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของฟอร์มด้วย Form Enhancement

HTML Form และ Input Element คืออะไร

HTML Form กับ JavaScript

ทำไมจึงต้องเพิ่ม Input Element ใหม่ใน HTML5

Input Element ใหม่ใน HTML5 มีอะไรบ้าง

- ตัวอย่างที่ 1 : ประยุกต์การทำงานของเกม TicTacToe
- ตัวอย่างที่ 2 : เว็บไซต์รับสมัครงาน
  • Search element
  • Number element
  • Email element
  • Telephone element
  • Telephone element
  • URL element
  • Range element
  • Date element
  • Datetime element
  • Datetime-local element
  • Time element
  • Month element
  • Week element

แท็กใหม่ใน HTML5 ที่ช่วยเสริมการทำงานของฟอร์ม

- แท็ก <DATALIST>
- แท็ก <OUTPUT>

คุณสมบัติใหม่ใน HTML5 ที่ช่วยเสริมการทำงานของฟอร์ม

- valueAsNumber
- Placeholder
- Autofocus
- Required
- Novalidate

CHAPTER 11 : สร้าง Mobile Website ด้วย HTML5 

สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตคืออะไร

- Mobile Website คืออะไร
- ความละเอียดหน้าจอของอุปกรณ์พกพา

เตรียมพร้อมก่อนสร้าง Mobile Website

- การติดตั้ง JDK (Java Development Kit)
- การติดตั้ง Android SDK
- การสร้าง Android Emulator
- การเรียกใช้งาน Android Emulator

การเรียกเปิดเว็บเพจด้วย Android Emulator

เริ่มต้นสร้าง Mobile Website 

การเลือกแสดงผลระหว่างเว็บไซต์ปกติและ Mobile Website

APPENDIX A: พื้นฐาน HTML

HTML คืออะไร

คอมเมนต์ใน HTML

โครงสร้างของภาษา HTML

- ส่วนหัวของเอกสาร HTML (เรียกว่า HEAD)
- ส่วนเนื้อหาของเอกสาร HTML (เรียกว่า BODY)

สรุปแท็กของภาษา HTML

- แท็กสำหรับการแสดงผล
- แท็กของฟอร์ม
- แท็กของรูปภาพ
- แท็กของตาราง
- แท็กของการจัดกลุ่มข้อความ
- แท็กของการแสดงรายการ

APPENDIX B : พื้นฐาน CSS

คอมเมนต์ใน CSS

วิธีการกำหนดสไตล์ของ CSS

การนำ CSS ไปใช้งานกับ HTML

- External Style Sheet
- Internal Style Sheet
- Inline Style Sheet

การกำหนดค่าคุณสมบัติใน CSS

- ค่าคุณสมบัติที่ระบุขนาด
- ค่าคุณสมบัติเพื่อระบุฟอนท์
- ค่าคุณสมบัติเพื่อระบุสี

รูปแแบบการประกาศ Selector ใน CSS

- Contextual Selector
- ID Selector
- Class Selector

APPENDIX C : พื้นฐาน JavaScript

JavaScript คืออะไร

- ตำแหน่งของ JavaScript ในเว็บเพจ

หลักการเขียนโปรแกรมภาษา JavaScript

รูปแบบไวยากรณ์ (Syntax) ของคำสั่งใน JavaScript

ตัวแปรของภาษาใน JavaScript

กฎการตั้งชื่อตัวแปรภาษา JavaScript 

Operator ใน JavaScript

การทำงานแบบวนซ้ำใน JavaScript

- การทำงานของลูป While
- การทำงานของลูป for

การกำหนดเงื่อนไขการทำงานใน JavaScript

ฟังก์ชั่นใน JavaScript

- การประกาศฟังก์ชั่น
- ตัวแปรในฟังก์ชั่น

ออบเจ็ค(Object) ใน JavaScript

- Built-in Object
  • Built-in Function
- Custom Object
- DOM Object
  • การเรียกใช้งานออบเจ็คบน DOM
  • การสร้างออบเจ็คเพิ่มเข้าไปในโครงสร้างของ DOM
  • Event ของออบเจ็ค DOM

01 : เปิดตัว HTML5

HTML5 เป็นภาษา HTML (HyperText Markup Language) เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่ W3C พัฒนาขึ้นต่อจาก HTML 4.01 ซึ่งเป็นตัวมาตรฐานก่อนหน้านี้ โดย HTML5 ได้เพิ่มคุณสมบัติต่างๆ ขึ้นมามากมาย เพื่อช่วยให้การพัฒนาเว็บเพจสามารถตอบสนองต่อการใช้งานได้มากขึ้น 

คู่มือสร้างเว็บไซต์ด้วย HTML 5 CSS 3 & JavaScript ฉบับสมบูรณ์
กังวาน อัศวไชยวศิน และ อรพิน ประวัติบริสุทธิ์
www.mebmarket.com
หนังสือเล่มนี้จะนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับ HTML5, JavaScript และ CSS3 โดยจะแนะนำคุณสมบัติใหม่ของ HTML5 เช่น Canvas, Semantic Markup, Geolocation, Local Storage เป็นต้น โดยเริ่มอธิบายตั้งแต่ลักษณะเด่นของคุณสมบัติแต่ละประเภท รูปแบบการนำคุณสมบัติแต่ละประเภทไปใช้งาน รวมถึงตัวอย่างโค้ดโปรแกรมแบบง่ายๆไปจนถึงขั้นสูง นอกจากนี้ยังมีการปูพื้นฐานสำหรับผู้เริ่มต้นซึ่งอาจยังไม่เคยศึกษาภาษา HTML, JavaScript หรือ CSS ในเวอร์ชั่นเดิมมาก่อนด้วย

วีดีโอสอน HTML5  1-10

วันจันทร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2560

จูบกบตัวนั้นซะ : Kiss That Frog


12 วิธีมองให้เห็น "โอกาส" ในทุก "ปัญหา" พลิกความคิดจากลบให้เป็นบวกในทุกสถานการณ์

เนื้อหาโดยสังเขป   

  กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเจ้าหญิงรับข้อเสนอของกบหน้าตาอัปลักษณ์หากเธอก้มลงจูบมัน มันจะกลายร่างเป็นเจ้าชายและแต่งงานกับเธอ แล้วการตัดสินใจนั้นก็เปลี่ยนชีวิตของเธอไปชั่วนิรันดร์ในชีวิตของคุณปัญหา อุปสรรคและความล้มเหลวก็ไม่ต่างจากกองทัพกบน่าขยะแขยงที่ดาหน้ากันมาทักทายไม่เว้นแต่ละวันคุณเลือกได้ว่าจะก้มลงจูบแล้วเจอสิ่งที่ดีกว่าหรือเบือนหน้าหนีแล้วทนอยู่กับมันต่อไป แต่การตัดสินใจเลือกก็อาจทำให้ชีวิตของคุณไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป    

 หนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเทคนิคอันแสนเรียบง่ายและผ่านการพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลจริง เพื่อช่วยให้คุณมองเห็นเจ้าชายรูปงามที่ซ่อนอยู่ในกบหน้าตาอัปลักษณ์และกล้าที่จะก้มลงจูบเพื่อปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระไปสู่ชีวิตที่สมปรารถนาในทุกๆ ด้านหลังจากอ่านจบ คุณจะสามารถเปลี่ยนทุกความคิดลบให้กลายเป็นบวกมองเห็นโอกาสในทุกปัญหาและอุปสรรค รวมถึงขจัดประสบการณ์อันเลวร้ายและบาดแผลในใจทิ้งไปจากชีวิตตลอดกาล 


สารบัญ 

1. ความจริงเจ็ดประการเกี่ยวกับตัวคุณ 
2. จินตนาการถึงเจ้าชายรูปงาม 
3. จ้องหน้ากบของคุณตรงๆ 
4. กำจัดกบน่าขยะแขยงออกไปจากหนองน้ำของคุณ
5. สูบน้ำออกจากหนองน้ำของคุณ 
6. เปลี่ยนน้ำในหนองน้ำของคุณ 
7. มองหาความงามในตัวกบ 
8. กระโดดไปข้างหน้าอย่างมั่นใจ 
9. จูบลากบน่าขยะแขยงของคุณ 
10. คาดหวังสิ่งที่ดีที่สุดจากกบของคุณ 
11. ปล่อยวางอดีต 
12 เคล็ดลับเจ็ดประการสู่การเป็นคนคิดบวกอย่างแท้จริง




หนังสือเสียง "จูบกบตัวนั้นซะ : Kiss That Frog" ฟังฟรี



วันจันทร์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2560

ซีรี่ส์บุปผารัญจวณ : อุณากรรณ

อุณากรรณ 

"อ่อนแอก็แพ้ไป อ่อนไหวก็ขึ้นเตียง โอเค้?"

โดย มณีจันท์

มนุษย์สร้างคำพูดขึ้นมา ขีดเขียนถ้อยคำลงบนแผ่นดินเหนียว ผืนหนัง ไม้ไผ่และกระดองเต่า...

การค้นพบกระดาษและการพิมพ์ ทำให้หนังสือมีรูปลักษณ์ที่พกพาได้สะดวกและเผยแพร่ไปในวงกว้างอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในประวัติศาสตร์ การพิมพ์ช่วยสถาปนาภาษาของแต่ชาติให้มั่นคง ช่วยให้ภาษาของสามัญชนแพร่หลาย ทำให้คนอ่านออกเขียนได้เพิ่มสูงขึ้น และขยายวงกว้างออกไปนอกวงผู้นำและนักบวช

และแท้จริงแล้ว การพิมพ์หนังสือคือการเปลี่ยนแปลงอย่างถึงรากถึงโคนทั้งทางความคิดและสังคม

สถาพรบุ๊คส์

คำนำสำนักพิมพ์
ในที่สุดซีรีส์บุปผารัญจวน ก็เดินทางมาถึงเรื่องสุดท้าย อุณากรรณ เรื่องราวของลูกคนกลางแห่งบ้านสุกณต์ธี กุลสตรีผู้มีเสน่ห์ปลายจวักและกิริยางดงาม ขณะเดียวกันรูปลักษณ์ภายนอกของเธอก็ดึงดูดใจอย่างที่เรียกว่า หุ่นเซียะ เอวเอส อกอึ๋ม จนวสวัตติ์ บิ๊กบอส เพลย์บอยแห่งเคนต์ อินดัสตรีส์ ใคร่จะได้ 'ชิม'

แน่นอนว่าลูกแมวน้อยอย่าอุณากรรณติดบ่วงพิศวาสของวสวัตติ์อย่างง่ายดาย และเธอก็กลายเป็น 'คิตเทน' ที่เขาแสนจะหวงแหน แต่...ความสำพันธ์ของคนสองคนเข้าไปพัวพันกับการทรยศหักหลังทางธุรกิจ การชิงไหวชิงพริบและแต้มต่อ เส้นทางของพวกเขาจึงไม่ได้เป็นสีชมพู ออกจะเทาๆ หม่นๆ ด้วยซ้ำ

ก็นั่นละ ให้มีอุปสรรคอย่างไร มณีจันท์ก็ยังเสิร์ฟความตื่นเต้นและวาบหวามให้ผู้อ่านเป็นระยะๆ

ขอเชิญทุกท่านตามติดชีวิตอุณากรรณ ณ บัดนี้
สำนักพิมพ์ Sugar Beat 

เนื้อเรื่องย่อ....

บทนำ
สี่ปีก่อน กรุงเทพมหานคร
อิสระ ลักษณ์นารา มองคนที่เดินลงจากตึกคณะในมหาวิทยาลัยชื่อดังของรัฐด้วยในตาวาววาม

หญิงสาวที่มากับเพื่อนร่วมคลาสมีลักษณะโดดเด่น ไม่ถึงกับสวยเฉียบแต่ความงามของเธอเป็นประเภทยิ่งมองยิ่งชวนติดต้องใจเมื่อประกอบกับร่างอวบอิ่มด้วยส่วนโค้งเว้าที่ซ่อนอยู่ใต้ชุดนักศึกษาหลวมๆ มองผิวเผินเหมือนอวบอิ่มไปสักนิดตามสมัยที่นิยมสาวหุ่นเพรียวบาง ทว่าชวนเร้าอารมณ์ให้ชายหนุ่มใฝ่ฝันถึง


"น้องแพร"

"พี่อิส" เจ้าของชื่อหันมองเขาเช่นเดียวกับนักศึกษาส่วนใหญ่ที่อยู่บริเวณนั้น และชายหนุ่งก็รู้ตัวว่ามักได้รับความสนใจทั้งจากรูปลักษณ์และชื่อเสียงของตน เพราะเขาคือลูกชายของนักธุรกิจใหญ่ที่มีนามสกุลเป็นที่นับหน้าถือตาและร่ำรวยระดับประเทศ

"พี่มารับน้องแพรไปทานข้าว" บอกแล้วมองเพื่อนของเธอที่ทำท่าเหลอหลา "จะชวนเพื่อนด้วยก็ได้นะครับ"

อุณากรรณกระพริบตาเพราะไม่ได้นัดกันไว้ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะมา แม้ชายหนุ่มจะตามเทียวไล้เทียวขื่อเธอเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว แต่เพราะเขาเป้นรุ่นพี่ปริญญาโทปีสุดท้ายในคณะเดียวกันจึงไม่อยากหักหน้า

"ขวัญกับเก๋ชวนกินข้าวที่โรงอาหาร" บอกพลางส่งสายตาให้ขวัญจิราและเกรยูรช่วยพูด "คือเรามีนัดติวกันค่ะ" 

"น้องขวัญกับน้องเก๋ไม่เบื่อกับข้าวที่โรงอาหารบ้างเหรือครับร้านที่พี่จะพาไปเพิ่งเปิดใหม่ แต่คนแน่นมาก โชคดีที่พี่จองโต๊ะได้" 

สองสาวมองหน้ากันนิดเดียวเพราะพอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่เกรงใจนามสกุลดังของหนุ่มรุ่นพี่เหมือนกัน

"อีกไม่กี่วันก็สอบแล้ว เราไม่อยากออกไปไหนไกลน่ะสิค่ะพี่อิส" ขวัญจิราบอกเสียงอ่อย เพราะมีนิสัยขี้เกรงใจ

"ถ้าอยากหาคนช่วยติวเพิ่ม ก็บอกพี่ได้เลยนะครับ"

"ขวัญเป็นคนติวให้เราค่ะ เพราะเรียนเก่งกว่าทุกคน" อุณากรรณบอกเสียงอ่อน หันมองเพื่อนเชิงขอเวลานอกเพราะดูเหมือนจะไม่มีใครช่วยได้ ก่อนเดินนำอิสระมาทางหนึ่ง

"พี่ไม่โทร. มาก่อนเพราะน้องแพรปฏิเสธตลอดว่าไม่ว่าง"

ชายหนุ่มโอดครวญทันทีเมื่อเดินออกมาใต้ร่มไม้นอกอาคาร ถือโอกาสยื่นหน้ามาเกือบชิดอย่างสนิทสนม แม้อุณากรรณจะถอยห่างในระยะที่เหมาะสม นึกลำพองใจเพราะแก้มเนียนใสกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ

"ใครๆ ก็บอกว่าพี่อิสมีแฟนแล้ว"

"ถ้ามี พี่จะมาหาน้องแพรได้ยังไงครับ"

"เพื่อนของคุณจินนี่คงไม่โกหกแพรกระมังค่ะ" หญิงสาวเอ่ยชื่อเล่นของ จินต์จุฑา กฤดากุล นักศึกษาปีสุดท้ายภาคอินเตอร์ในมหาวิทยาลัยเดียวกัน เป็นรุ่นพี่ต่างคณะของเธอ และไฮโซแถวหน้ารุ่นใหม่ของเมืองไทย

ในขณะที่อิสจบปริญญาตรีจากสหรัฐอเมริกามาได้สามสี่ปีจึงกลับเมืองไทย และใช้ชีวิตตามประสาหนุ่มรูปหล่อพ่อรวยจนถูกกดดันจากครอบครัวให้เรียนปริญญาโท มิเช่นนั้นก็จะไม่ได้ตำแหน่งผู้บริหารตามที่ต้องการ

"พี่กับจินนี่เป็นเพื่อนกัน" อิสระทำท่าไม่พอใจ "ใครมาพูดให้น้องแพรเข้าใจผิดแบบนั้นครับ"

การทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนไม่อยู่ในวิสัยของอุไรกรรณ จึงได้แต่ส่ายหน้า "ช่างเถอะค่ะ"

"ช่างยังไง มาทำให้น้องแพรเข้าใจพี่ผิดขนาดนี้"

"ถ้าไม่ใช่ เขาจะมากันท่าพี่อิสให้คุณจินนี่ทำไมค่ะ" ถามเสียงอ่อน

"ไม่อยากนินทาสุภาพสตรีหรอกนะครับ แต่จินนี่คงมีใจให้พี่อยู่บ้าง" ชายหนุ่มถอนใจ มองเธอด้วยสายตาอ้อนวอนขอให้เชื่อ "เราเจอกันตามงานสังคมอยู่บ่อยๆ เพราะครอบครัวกับธุรกิจ แต่สายตาของพี่มีน้องแพรคนเดียว"

"เธอดูเหมาะสมกับพี่อิสออกค่ะ"

"ผู้หญิงอย่างจินนี่หาได้ถมไป" สายตาหนุ่มเจ้าชู้อ่อนเชื่อมลงอีก "แต่ผู้หญิงอย่างน้องแพรหาไม่ง่ายเลย"

หญิงสาวที่เพิ่งพ้นวัยสาวน้อยมาไม่นานนึกกระดาก เพราะแม้จะมีชายหนุ่มมาขายขนมจีบไม่ใช่น้อย แต่พวกนั้นถ้าไม่กระเจิงด้วยฝีมือของตัวร้ายที่เป็นน้องสาวคนสุดท้องของบ้าน ก็มักจะยอมแพ้เพราะท่าทางนุ่มนวลแบบเสมอต้นเสมอปลาย แต่จีบเท่าไรก็ไม่มีอะไรคืบหน้าขอลเธอเอง

ต่างกับอิสระที่มุ่งมั่นเทียวไล้เทียวขื่อและทุ่มเทมาหาถึงคณะพร้อมของฝาก ซึ่งแม้ว่าเธอจะเพียรส่งคืนอย่างเครื่องประดับราคาแพงหรือกระเป๋า เขาก็หาของอื่นที่มีค่าน้อยลงอย่างดอกไม้ ขนมและหนังสือที่รู้ว่าเธอชอบ

"แพรไม่ได้พิเศษขนาดนั้น อย่างพี่อิสคงหาที่ดีกว่าได้เยอะแยะ"

"แต่หัวใจของพี่เป็นของน้องแพรแล้ว ถึงดีกว่าพี่ก็ไม่สนใจ"
อุณากรรณเบินหน้าหนีอย่างอ่อนใจ ก่อนสะดุ้งเมื่อมือเล็กถูกรวบกุมดื้อๆ "พี่อิส"

"ออกไปทานข้าวกับพี่นะครับ ให้น้องขวัญกับเก๋ไปด้วยก็ได้ถ้าน้องแพรกลัวพี่"

อุณากรรณยังไม่ทันปฏิเสธ เพราะดึงมือที่ถูกยัดของบางอย่างให้ขึ้นมาดูอย่างสงสัย

ภาพที่สายตาคนอื่นเห็นจึงเหมือนหนุ่มสาวเกี้ยวพาหยอกเย้ากันตามปกติ

"นี่อะไรคคะ" ถามเมื่อเทวัตถุแวววาวออกจากถุงกำมะหยี่เล็กๆ 

"พี่ไปงานแสดงสินค้ากับแม่มา เห็นมันน่ารักดีเลยซื้อมาฝาก"

ของที่ว่าคือสร้อยข้อมือไข่มุกเม็ดเล็กสลับกับพลอยสี่เหลี่ยมดีไซน์ทันสมัย ซึ่งคงมีราคาค่างวดไม่น้อย ถึงครอบครัวของเธอจะไม่ร่ำรวย แต่อุณากรรณคุ้นเคยกับของพวกนี้ดีเพราะมารดามักเอามาขัดถูในยามว่าง พี่สาวซึ่งเป็นนักแสดงมีชื่อในบทนางร้ายอย่างชาญ่าหรือพุดพิชญาก็มีของมีค่าเช่นนี้พอสมควร และส่งต่อให้เธอใช้บ้าง

"ของจริงนี่ค่ะ"

"จะให้พี่ซื้อของปลอมมาให้คนพิเศษอย่างน้องแพรได้ยังไง" เขาทำเสียงน้อยใจเหมือนโดนดูถูก

อุณากรรณรีบสั่นหน้า "แพรไม่ได้หมายความอย่างนั้น แต่พี่อิสก็รู้ว่าแพรไม่รับของที่มีราคา"

เธอเก็บของใส่กำมะหยี่สีดำส่งคืน แต่อิสระกลับกุมมือลงทับ "น้องแพรไม่เคยรับอะไรจากพี่เลย"

"เพราะแพรรับไม่ได้" เสียงอ่อนจริงจังขึ้นเช่นเดียวกับสายตา "มันไม่เหมาะสม"

"พี่อยากให้ของขวัญวันเกิดกับคนที่พี่รัก ก็ไม่ได้เหรอครับ"

"พี่อิสรู้ได้ยังไงว่าวันนี้เป็น..."

"อะไรที่เกี่ยวกับน้องแพร พี่ก็รู้จนได้"

หญิงสาวชะงักไปชั่วขณะ เป็นเวลาที่มือยังถูกกุมไว้เมื่อเสียงของผู้หญิงมาใหม่ดังขึ้น  

  ...อ่านตัวอย่างอีบุ๊ค (ebook) "อุณากรรณ" ได้ฟรีที่ลิงค์ด้านล่างครับ...

ซีรีส์บุปผารัญจวน : อุณากรรณ
มณีจันท์
www.mebmarket.com
อุณากรรณ สามใบเถาคนกลางแห่งบ้านสุกนต์ธี ผู้มีเสน่ห์ปลายจวัก ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้ช่วยพีเอของ วสวัตติ์ ศิวราชภักดี บิ๊กบอสแห่งเคนต์ อินดัสตรีส์ เธอตกหลุมรักเขาทันทีเพราะเจ้านายเพลย์บอยสุดฮอตเคยช่วยชีวิตตนตั้งแต่แรกเจอ วสวัตติ์รู้ดีว่า 'ลูกแมวน้อย' มอบหัวใจให้เขาเป็นแน่แท้จึงหาเรื่องให้เธอมาอยู่ใกล้ ออกอุบายให้เธอต้องทำอาหารรสชาติอร่อยล้ำมาเสิร์ฟถึงปาก แต่แท้จริงที่เขาอยาก 'กิน' มากกว่าอะไรทั้งหมดก็คือ แม่ครัวหุ่นเซียะ เอวเอส อกอึ๋ม สุดท้ายกุลสตรีไร้เล่ห์ก็พ่ายแพ้แก่เสน่ห์ล้นเหลือของนายใหญ่ ซ้ำร้ายยังถูกเขาไล่ออกจากงานด้วยข้อหาสปายของฝ่ายตรงข้าม ลูกแมวน้อยต้องหลบมาเลียแผลใจและตั้งหลักชีวิตใหม่ด้วยการเปิดร้านอาหาร ก็ยังหนีไม่พ้นวังวนของเสือร้ายที่ตามมาตอแย และรังแกอย่างเอาแต่ใจ แถมเขายังไม่วายเอาตัวมาชิดใกล้ และเข้านอกออกในบ้านเธออย่างหน้าด้านๆ หญิงสาวไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะพอตั้งท่าจะต้านทาน เขาก็พานทำให้อ่อนระทวย